รีเซต

ไฟเขียว “สทป.” ร่วมทุนเอกชนผลิต-ขายยุทโธปกรณ์

ไฟเขียว “สทป.” ร่วมทุนเอกชนผลิต-ขายยุทโธปกรณ์
TNN ช่อง16
29 มกราคม 2564 ( 11:48 )
85
ไฟเขียว “สทป.” ร่วมทุนเอกชนผลิต-ขายยุทโธปกรณ์

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน  เห็นชอบส่งเสริมให้มีการผลิตและขายยุทโธปกรณ์ โดยส่งเสริมให้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน  หรือ พีพีพี  โดยเป็นการนำร่องใน 4 เทคโนโลยี จาก 9 เทคโนโลยี ที่ภาครัฐจะมีการสนับสนุน ตามพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พุทธศักราช2562 ประกอบด้วย โครงการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (OPV), โครงการยานเกราะล้อยาง 4 คูน 4, โครงการอากาศยานไร้คนขับ (UAV) , และโครงการผลิตอาวุธปืนและกระสุนปืน

การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จะเป็นไปในลักษณะเปิดกว้างให้มีการร่วมลงทุนระหว่างสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อลดการนำเข้าเทคโนโลยีและสินค้าตามเป้าหมายจากต่างประเทศ รวมทั้งผลิตเพื่อส่งออก โดยตั้งเป้าที่จะส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยนำร่องในกลุ่มอาเซียน

พล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กล่าวถึงการตั้งนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศ  โดยปัจจุบันมีโครงการที่จะจัดตั้งขึ้นที่บริเวณหนองกระทุ่ม  ต.หนองกุ่ม  อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี  โดยมีเนื้อที่ 3,500 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีความพร้อม ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความคุ้มค่าของโครงการ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจัดทำการประเมินผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อม  (EHIA)  พร้อมกันนี้ จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อกำหนดสิทธิประโยชน์การลงทุน  และเมื่อมีความชัดเจนและก่อสร้างนิคมฯแล้วเสร็จ จะสามารถดึงดูดภาคเอกชนเข้ามาลงทุน

ส่วนการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  (อีอีซี)  นั้น มีสิทธิประโยชน์รองรับไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ ต้องดูความเหมาะสม และความพร้อมของสถานที่ในการลงทุนด้วยเช่นกัน

สำหรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย พื้นที่ อีอีซี  ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานและหลักประกันด้านความมั่นคงของประเทศและขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเอง จึงถูกยกให้เป็นวาระสำคัญที่บรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 


เกาะติดข่าวที่นี่ 
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand 
facebook live : TNN Live 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNONLINE 
Youtube Official : TNNThailand 
Instagram : @tnn_online 
TIKTOK : @tnnonline

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง