หอการค้าลุย 'อุบลฯ-อำนาจเจริญ-ยโสธร' จับมือรุกค้าชายแดน-ท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี หอการค้าจังหวัดอำนาจเจริญ และหอการค้าจังหวัดยโสธร โดยลงพื้นที่ด่านศุลกากรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เยี่ยมชมบรรยากาศการค้าชายแดนว่า การค้าชายแดนปี 2564 มีมูลค่าการค้ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์ว่าปี 2565 มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 30-40% หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
นายสนั่นกล่าวว่า สินค้าที่ไทยส่งออกส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์การเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญคือ มันสำปะหลัง และผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่มีความต้องการให้ภาครัฐเร่งพิจารณาเปิดด่าน และอนุญาตให้นักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางเข้า-ออกได้ตามปกติ เพื่อให้การค้าขายและการท่องเที่ยวในพื้นที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเชื่อมั่นว่าด่านช่องเม็กจะมีมูลค่าการค้าขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ภายหลังเปิดด่านอย่างเต็มรูปแบบภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด
อีกทั้งประชุมร่วมกับ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการกลุ่มค้าชายแดนและข้ามแดน นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าชายแดนไทย สปป.ลาว และกัมพูชา ร่วมกับผู้ประกอบการใน 3 จังหวัด มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ศุลกากรเขมราฐ ศุลกากรช่องเม็ก คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร และกลุ่มผู้ประกอบการภาคการค้าชายแดน เข้าร่วมกว่า 80 คน ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานี
นายสนั่นกล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือและมีข้อเสนอ คือการเร่งรัดเปิดจุดผ่อนปรนการค้าและยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่ติดกับประเทศกัมพูชา มีศักยภาพในการยกระดับให้เป็นด่านการค้าถาวร และเร่งรัดการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ที่ติดกับ สปป.ลาว จะช่วยให้เกิดการขยายตัวของการค้าในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สอดคล้องกับนโยบาย Trade and Travel ของหอการค้าไทย ที่มุ่งเน้นให้เกิดการค้าและการท่องเที่ยวควบคู่กันไป
“ผู้ประกอบการยังเสนอให้มีการเร่งรัดโครงการก่อสร้างถนนไปยังแพขนานยนต์ บริเวณจุดผ่านแดนถาวร บ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มมีการดำเนินการแล้ว โดยหอการค้าจะประสานกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้างดังกล่าว ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมทำหน้าที่ส่งเสริมศักยภาพและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่การค้าชายแดน เพื่อให้เกิดการยกระดับและสร้างโอกาสการค้าและการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป” นายสนั่นกล่าว