จิตแพทย์วอนเข้าใจคนป่วยติดเชื้อโควิด-19 ไม่ติดต่อเพื่อนบ้าน

วันนี้ (29มี.ค.63) พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีประชาชนรวมตัวกดดันสถานพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางบอน กลางดึกวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา หลังทราบข่าวว่ามีการรับตัวผู้ป่วยที่ต้องสงสัยเป็นโรคโควิด-19 ไว้ดูอาการ ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะรัศมีการติดต่อของโรคนี้ แค่ 2 เมตร ถ้าไม่ได้เข้าไปในสถานที่กักกันโรค ไม่สัมผัส หรืออยู่ใกล้ผู้ป่วย ก็ไม่ติดโรคนี้ง่ายๆ
ขณะที่ แฟนเพจ Drama-addict ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า หากขับไล่คนป่วยที่กักโรคอยู่ออกไป ระหว่างเคลื่อนย้ายจะเสี่ยงเพิ่มขนาดไหน ขอให้ทำอะไรโดยมีสติ อย่าแตกตื่นฟังข่าวลือจนตื่นกลัว บางชุมชนที่มีคนป่วยและรีบกักตัวดูอาการ สังคมควรชื่นชมที่ปฏิบัติตามระเบียบ ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่โรงพยาบาลเอกชนให้กลับมากักตัวดูอาการที่บ้าน 6 วัน แล้วจึงรับตัวไปรักษา ว่า การตรวจหาเชื้อโควิด -19 ทุกสถานที่ที่ทำการตรวจ ต้องมีมาตรฐานการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผู้ที่ไปตรวจต้องรอผล จะให้กักตัวอยู่บ้านจนกว่าผลออกมา โดยระหว่างรอต้องปฏิบัติตัวให้เหมาะสม หากผลแล็บออกมาว่าเป็นโควิด-19 จะมีรถมารับไปโรงพยาบาล
ขณะที่นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีประชาชนย่านบางบอนไล่คนป่วยติดเชื้อโควิด-19 ส่วนหนึ่งมาจากความกลัวทำให้คนขาดสติ ทุกคนควรเผชิญสถานการณ์ด้วยความเข้าใจ และสงบ โรคโควิด-19 เป็นกลุ่มโรคอาการของโรคหวัด แต่ว่าเป็นโรคใหม่ที่คนเราไม่มีภูมิคุ้มกัน ร้อยละ 80 อาการเล็กน้อย ที่เหลือร้อยะ 20 อาการรุนแรง มีการติดเชื้อปอดอักเสบ
หากรับฟังข่าวสารอย่างมีสติ จะรู้ว่าโรคนี้ ถ้าไม่ติดต่อกันใกล้ชิด รับละอองผอย ไอจาม น้ำลาย น้ำมูก ไม่ติด โดยเมื่อมีสติจะคิดถึงหลักป้องกันโรค (Social distancing) หรือระยะห่างที่เหมาะสม 1-2 เมตร รวมกับหลัก 3 คือ สวมหน้ากาอนามัย หมั่นล้างมือ ไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง แค่นี้ก็ปลอดภัย การที่คนไข้อยู่บ้านตนเอง ก็ไม่สามารถแพร่โรคไปยังบ้านข้างๆได้หากไม่มีการสื่อสารกัน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนไทยจะผ่านภาวะวิกฤตนี้ไปได้ และไม่ยากจะเรียนรู้ ปรับตัว มีสติรับข่าวสาร ตรึกตรองไม่ตระหนก และเข้าใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา โรคนี้ต่อไปต้องพบคนป่วยมากขึ้น อาจเป็นเราหรือเป็นญาติคนใกล้ชิดเราก็ได้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ยอดนิยมในตอนนี้
