รีเซต

ดรามา ‘แจ็คแปปโฮ’ จุดถกมารยาทนักท่องเที่ยวไทย ในยุคโอเวอร์ทัวริซึมญี่ปุ่น?

ดรามา ‘แจ็คแปปโฮ’ จุดถกมารยาทนักท่องเที่ยวไทย ในยุคโอเวอร์ทัวริซึมญี่ปุ่น?
TNN ช่อง16
18 พฤศจิกายน 2568 ( 12:13 )
9

กระแสวิจารณ์กรณี แจ็คแปปโฮ อินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยที่ปีนขึ้นไปเต้นบนหลังคารถตู้หน้าร้านลอว์สันบริเวณคาวากุจิโกะใกล้ภูเขาไฟฟูจิ กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ไวรัลที่ได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยหลายฝ่ายชี้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน “จุดเสี่ยงสูง” ด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเผชิญปัญหาโอเวอร์ทัวริซึมมานาน และมีมาตรการควบคุมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เข้มงวดเป็นพิเศษ การกระทำลักษณะนี้จึงถูกจับตาอย่างทันทีและขยายวงสนทนาไปทั่วโซเชียลทั้งสองชาติ

Landmark ไวต่อพฤติกรรม พื้นที่ฟูจิคาวากุจิโกะที่กำลังรับภาระจากจำนวนนักท่องเที่ยว

ร้านลอว์สันที่เกิดเหตุถูกจัดว่าเป็น “มุมถ่ายภาพระดับสัญลักษณ์” เพราะมีฉากภูเขาไฟฟูจิอยู่ด้านหลัง ทำให้ทุกวันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเก็บภาพและเช็กอิน ท้องถิ่นญี่ปุ่นเคยออกคำเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับพฤติกรรมที่รบกวนชุมชน เช่น การข้ามถนนถ่ายรูปโดยไม่สนไฟจราจร การจอดรถผิดกฎ และการรวมกลุ่มถ่ายคอนเทนต์บริเวณหน้าร้าน กรณีของแจ็คแปปโฮที่ปีนขึ้นหลังคารถและเต้นแบบไม่สนใจสภาพแวดล้อม จึงถูกมองว่าเข้าข่ายพฤติกรรมเสี่ยงที่เพิ่มแรงกดดันต่อนโยบายควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ฟูจิคาวากุจิโกะเป็นพื้นที่วิกฤติด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ต้องติดป้ายหลายภาษา ตั้งรั้วกั้นการถ่ายรูป และเตรียมมาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวที่อาจจะเริ่มใช้จริงในปี 2026 เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ให้ชุมชนอยู่ร่วมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างสมดุล

กระแสโซเชียลไทยเดือดหนัก บทบาทของอินฟลูเอนเซอร์และความรับผิดชอบบนพื้นที่สาธารณะ

หลังคลิปถูกเผยแพร่ แจ็คแปปโฮตอบคอมเมนต์ข้ามแพลตฟอร์มอย่างรุนแรง พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าชาวญี่ปุ่นจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ทำพฤติกรรมเป็นคนไทย ก่อนประกาศว่าจะไม่ลบคลิปเพราะต้องการรับผิดชอบด้วยตัวเอง การตอบลักษณะนี้ทำให้ประเด็นรุนแรงขึ้น โดยชาวเน็ตจำนวนมากตั้งคำถามว่าการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากควรมีความตระหนักถึงผลต่อภาพรวมของนักท่องเที่ยวไทยมากเพียงใด

ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาของแจ็คออกมายอมรับว่าเตือนหลายครั้งแล้วไม่ฟัง ทำให้กระแสวิจารณ์ขยายไปถึงประเด็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลและผลที่ตามมาในระดับครอบครัว ซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ทั่วไปของนักท่องเที่ยว แต่ถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมของผู้มีอิทธิพลต่อสาธารณะ

สื่อญี่ปุ่นรายงานต่อเนื่อง เชื่อมโยงพฤติกรรมกับปัญหาโอเวอร์ทัวริซึมทั้งประเทศ

สื่อญี่ปุ่นหลายสำนักนำเสนอข่าวกรณีแจ็คแปปโฮด้วยน้ำเสียงจริงจัง โดยรายงานว่านี่เป็นตัวอย่างของนักท่องเที่ยวที่กระทำผิดมารยาทสาธารณะในจุดที่มีความเปราะบางด้านการท่องเที่ยว สื่อย้ำว่าญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาโอเวอร์ทัวริซึมหนักที่สุดในรอบหลายปี ทำให้เหตุการณ์ลักษณะนี้ถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการถกเถียงระดับชาติ เพื่อเสริมมาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคต

ประเด็นนี้จึงไม่หยุดอยู่ที่การวิจารณ์ส่วนบุคคล แต่ถูกขยายเป็นเรื่องภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวไทยในสายตาสังคมญี่ปุ่น เพราะเกิดขึ้นในจุดที่กำลังอยู่ในสายตาเจ้าหน้าที่และประชาชนท้องถิ่นตลอดเวลา

สถิติการท่องเที่ยวไทย–ญี่ปุ่น ตัวเลขที่ทำให้ทุกการกระทำถูกจับตา

สาเหตุที่เรื่องนี้ขยายวงกว้าง เนื่องจาก จำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นกลุ่มสำคัญระดับเอเชีย ข้อมูลล่าสุดระบุว่า

  • 9 เดือนแรกปี 2025 คนไทยไปญี่ปุ่น 815,800 คน เพิ่มขึ้น 8.5%
  • ครึ่งปีแรก 2025 มีจำนวน 680,500 คน เพิ่มขึ้น 10.1%
  • ไทยเป็น อันดับ 1 ของอาเซียน ในจำนวนนักท่องเที่ยวไปญี่ปุ่น
  • ไทยติดอันดับ Top 6 ของโลก
  • ปี 2024 คนไทยไปญี่ปุ่นมากกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24%
  • เมื่อเทียบกัน ในปีเดียวกัน ชาวญี่ปุ่นมาไทยประมาณ 810,000 คน

ตัวเลขนี้สะท้อนว่าคนไทยมีสัดส่วนสูงในตลาดนักท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ทำให้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวไทยมีความหมายทั้งต่อระดับชุมชนและระดับนโยบาย หากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในจุดที่มีความเสี่ยงสูง ย่อมถูกจับตาและถูกขยายผลได้รวดเร็วกว่าสมัยก่อน

ญี่ปุ่นในยุคโอเวอร์ทัวริซึม ความกดดันที่ทำให้ทุกเหตุการณ์ไวรัลมีน้ำหนักทางนโยบาย

ญี่ปุ่นรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 31.6 ล้านคน ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2025 เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในหลายเมือง เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า และบริเวณภูเขาไฟฟูจิ ทำให้เกิดข้อร้องเรียนของชุมชนต่อพฤติกรรมของผู้เดินทาง เช่น กระทำผิดกฎจราจร การถ่ายรูปขวางถนน การละเมิดความเป็นส่วนตัว และการใช้พื้นที่สาธารณะไม่เหมาะสม

สถานการณ์นี้ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นเริ่มพิจารณามาตรการหลายรูปแบบ เช่น ค่าธรรมเนียมถ่ายภาพ การจำกัดจำนวนผู้เข้าพื้นที่ และการออกกฎเฉพาะสำหรับจุดแลนด์มาร์ก จึงทำให้เหตุการณ์ของแจ็คแปปโฮถูกมองว่าเป็นตัวอย่างล่าสุดที่กระตุ้นให้สังคมญี่ปุ่นต้องเร่งจัดการปัญหาให้เด็ดขาดขึ้น

มุมมองสังคมไทย คาดหวังพฤติกรรมและมาตรฐานของผู้สร้างคอนเทนต์

ในฝั่งไทย กระแสหลักคือความห่วงใยต่อภาพรวมของนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งกำลังเดินทางไปญี่ปุ่นปีละหลายแสนถึงหลักล้านคน ทำให้สังคมตั้งคำถามใหม่เกี่ยวกับบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลสูงต่อการท่องเที่ยว เช่น

  • ผู้สร้างคอนเทนต์ควรประเมินผลกระทบต่อประเทศต้นทางมากกว่านี้หรือไม่
  • ควรมีกฎเกณฑ์ทางสังคมสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ในต่างแดนหรือไม่
  • เหตุการณ์เช่นนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชาวญี่ปุ่นต่อนักท่องเที่ยวไทยอย่างไร

ประเด็นเหล่านี้กำลังถูกพูดถึงในหลายแพลตฟอร์ม และอาจนำไปสู่การตั้งมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมคอนเทนต์การท่องเที่ยวของไทยในอนาคต

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง