จับตา 3 ปัจจัยชี้ชะตาตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล. เอเชียพลัส เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นใน สัปดาห์หน้า ประเด็นที่ต้องติดตามมี 3 ปัจจัยหลักคือ1.จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน การล็อกดาวน์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นหรือไม่ เช่นเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ แม้ว่าล่าสุดองค์การอาหารและยาสหรัฐฯหรือเอฟดีเอได้อนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิดของบริษัท ไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบออนเท็คในกรณีฉุกเฉินแล้ว
2.ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่16-17 ธ.ค.นี้ว่าจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจเท่าไหร่ซึ่งหากมีปริมาณมากจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นโลก และ3. มาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่เลื่อนมากจากสัปดาห์ก่อนว่า จะส่งเสริมให้เงินทุนไหลออก (Capital Outflow) หรือควบคมุการไหลเข้า (Capital Inflow)
ทั้งนี้จะต้องดูความรุนแรงของมาตรการดังกล่าวว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็น CapitalInflow จะส่งผลต่อเงินบาทอ่อน และทำให้ต่างชาติขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 62 ที่ผ่านมาธปท.ออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท 2 ครั้ง และในวันที่20 พ.ย. อีก 1 ครั้ง โดย 1 ใน 3 ครั้งสกัดเงินทุนไหลเข้า และภายหลังจากธปท.ประกาศทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง0.5% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดทุนไทยมีพื้นฐานแข็งแกร่งส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นราคาแลกการ์ดหรือยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนักเช่น BAM คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/63 จะออกมาดีต่อเนื่องไปถึงปี 64 ราคาเป้าหมายที่ 26 บาทรวมถึงหุ้น KBANK เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวการขอสินเชื่อแนวโน้มเพิ่มขึ้นและที่ผ่านมาได้มีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ล่วงหน้าค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงปัญหาเรื่องคุณภาพสินทรัพย์และปัจจุบันอัตราส่วนราคาต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หรือPBV ซื้อขาย 0.66 เท่าถือว่าอยู่ ระดับต่ำ คาดว่าราคาเป้าหมายอยู่ที่ 126 บาท
ส่วน SCC เป็นหุ้นที่พื้นฐานน่าสนใจ โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ปิโตรเคมีคาดว่าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น70%หลังจากที่โรงงาน Long Son Petrochemicals หรือ LSP ที่เวียดนามเปิดดำเนินการปี 66 ขณะที่ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย หลังระดมทุนช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินและธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นราคาเป้าหมายSCC ปีหน้าอยู่ที่ 430 บาท อย่างไรก็ตาม กรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์หน้าอยู่ที่1,455-1,505 จุด
เกาะติดข่าวที่นี่
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE