BECปรับโมเดลดันธุรกิจโต “พรหมลิขิต” หนุนQ4แกร่ง

#BEC #ทันหุ้น – BEC รับอานิสงส์ “พรหมลิขิต-ธี่หยด” หนุนโค้งท้ายแกร่ง ผู้บริหาร “พิริยดิส  ชูพึ่งอาตม์” ปรับโมเดลธุรกิจขยายภาพยนตร์-รีรันละคร หวังลดต้นทุน-หนุนโตระยะยาว พร้อมวางหมากปี 2567 ปั้นภาพยนตร์ใหม่ 4 เรื่อง หลังเรื่องแรกของปีนี้ประสบความสำเร็จ ฟากโบรกมองไตรมาส 4 ฟื้นตัว หนุนผลงานทั้งปี กลับมาเติบโต 46% ชูเป้า 6.19 บาท

นายพิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักการเงินและการบัญชี บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC เปิดเผยว่า จากประเด็นเกี่ยวกับกระแสของละคร “พรหมลิขิต” ที่เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี และทำให้บริษัทได้มีการขายลิขสิทธิ์ให้กับต่างประะเทศ รวมทั้งแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ NETFIX  เพิ่มเติม

ประกอบกับธุรกิจภาพยนตร์ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก หลังภาพยนตร์เรื่อง "ธี่หยด" ที่ได้มีการเข้าฉายในโรงตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้คาดในไตรมาส 4/2566 แนวโน้มรายได้ BEC จะยังอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

*รุกขยายฐานภาพยนตร์

ขณะที่แนวทางการบริหารงานของ BEC หลังจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอ โดยในส่วนของธุรกิจผลิตคอนเทนต์บริษัทได้มีการนำละครที่ได้รับความนิยมในอดีต อาทิ อย่าลืมฉัน เพื่อมาฉายซ้ำ (รีรัน) เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนของธุรกิจ นอกเหนือ จากการผลิตละครใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่มีการปรับลดค่าใช้จ่ายในการผลิตละครต่อเรื่องลงเฉลี่ยประมาณ 10-15% หวังช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และน่าจะช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทจะหันมาให้น้ำหนักกับการขยายธุรกิจภาพยนตร์ให้มากขึ้น หลังภาพยนตร์ "ธี่หยด" เรื่องแรกที่ทาง BEC สามารถสร้างรายได้ได้สูงถึง 500 ล้านบาท ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ และในปี 2567บริษัทมีแนวทางผลิตภาพยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 เรื่อง หวังกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยผลันดันการเติบโตในอนาคต

*ปีหน้าพลิกแรง

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BEC ว่า คาดผลประกอบการในไตรมาส 4/2566 ฟื้นตัว QoQ สำหรับรายได้จากโฆษณาคาดทรงตัว QoQ แม้ว่าละครพรหมลิขิต (ภาคต่อของบุพเพสันนิวาส) ที่เริ่มออกอากาศ 18 ตุลาคม จะมีเรตติ้งสูงสุดของปี และเพิ่มรายได้โฆษณาในช่วงที่ออกอากาศ แต่ด้วยเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ ทำให้ลูกค้ามีการลดโฆษณาช่วงอื่นลง

อย่างไรก็ตามไตรมาส 4/2566 จะได้แรงหนุนจากธุรกิจภาพยนตร์ ซึ่งทาง BEC จับมือกับ เอ็ม สตูดิโอ บริษัทลูกของ MAJORในการสร้างยนตร์ ซึ่งมีเข้าฉาย 1 เรื่องคือภาพยนตร์เรื่องธี่หยดโดยได้รับการตอบรับที่ดี เข้าฉาย 2สัปดาห์ทำรายได้ 400 ล้านบาทเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินเร็วสุดของปี

คงคำแนะนำ "TRADING" ผลประกอบการในปี 2566 ชะลอตัวตามอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อทีวี คาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโต 46% YoY ในปี 2567 ซึ่งคาดอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อทีวีจะฟื้นตัว ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และรายได้จากการขายลิขสิทธิ์จะเพิ่มขึ้น จากแผนในการผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ เพิ่ม และขยายฐานโดยการรับจ้างผลิต คงมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 6.19 บาท อิงวิธี DCF ที่ WACC ที่ 8.4% Terminal Growth 2%