โควิดไทยสัญญาณดีเข้าสู่ภาวะหลังระบาด สธ.ขอประชาชนสวมหน้ากากต่อ

เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงพฤติกรรมคนไทยต่อการป้องกันโรคโควิด-19 ว่า ตามเป้าหมายของ สธ.ที่จะให้โควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น (Endemic) ในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่คำถามคือ สถานการณ์ขณะนี้มีแนวโน้มหรือไม่ ซึ่งข้อมูลย้อนหลัง 1 สัปดาห์ พบว่าผู้ติดเชื้อจาก RT-PCR และ ATK ลดลงต่อเนื่อง เหลือวันละ 1.4-1.5 หมื่นราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตคงที่ จึงเป็นสัญญาณที่ดีในการเข้าสู่ภาวะหลังการระบาด (Post Pandemic) อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังต้องปฏิบัติตัวสร้างภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติเพิ่มเติมจากวัคซีน เพราะยังมีคนอีกร้อยละ 20 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

นพ.เอกชัย กล่าวว่า อนามัยโพลได้สำรวจพฤติกรรมการป้องกันตัวเองของประชาชนช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเทศกาลสงกรานต์ พบว่า ผู้ที่ทำได้ครบทั้งสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือ เฉลี่ยที่ร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 ที่ทำได้ไม่ครบ แบ่งเป็น สวมหน้ากากอนามัย ทำได้มากกว่าร้อยละ 95 ล้างมือมากกว่า ร้อยละ 90 เว้นระยะห่างร้อยละ 84 และการตรวจ ATK กว่าร้อยละ 84 ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้การติดเชื้อมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่ประชาชนไม่ได้ทำหรือทำได้บางครั้ง เกิดจาก 1.ไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะร้อยละ 5 เพราะอากาศร้อนและอึดอัด 2.ไม่ได้ตรวจ ATK ร้อยละ 20 เพราะคิดว่าไม่ได้เสี่ยง และ 3.ไม่ได้สวมหน้ากากขณะอยู่ร่วมบ้านร้อยละ 30 เพราะไว้ใจคนในครอบครัวว่าไม่ติดเชื้อ หายใจลำบาก และคิดว่าคนในบ้านติดเชื้อหมดแล้ว

“ทั้งนี้ แม้ว่าอากาศร้อน สวมหน้ากากแล้วรู้สึกอึดอัด แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการป้องกันการติดเชื้อ แพร่เชื้อได้ ดังนั้น หากต้องมีการพบปะผู้อื่นก็ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากอยู่ในพื้นที่โล่งๆ คนเดียว หรืออยู่ห่างจากผู้อื่นก็อาจจะสามารถเปิดหน้ากากเพื่อหายใจให้สะดวกขึ้นได้เป็นครั้งคราว อีกทั้ง ขอแนะนำว่าในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเหงื่อออกมา บางพื้นที่มีฝนตก ซึ่งอาจจะทำให้หน้ากากเปียกชื้นได้ ดังนั้น ขอให้มีการพกหน้ากากสำรองเผื่อไว้สำหรับเปลี่ยนด้วย” นพ.เอกชัยกล่าว

นพ.เอกชัย กล่าวว่า ส่วนการสำรวจช่วงหลังสงกรานต์โดยมีการถามถึงการปฏิบัติตัวเมื่อมีความเสี่ยงพบว่า สังเกตอาการตัวเองร้อยละ 79.9 งดกินข้าวร่วมกับผู้อื่นร้อยละ 38.7 ทำงานจากบ้าน (work from home) ร้อยละ 18.1 และไม่ได้ทำอะไรเลยร้อยละ 4.4 เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงอะไร ทั้งนี้ ขอย้ำว่าแม้สถานการณ์การติดเชื้อขาลงแต่ต้องไม่ประมาท ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์และให้ปฏิบัติการมาตรการ ป้องกันโรคครอบจักรวาล และขอแนะนำดูแลตัวเองตามหลัก 3 อ. คือ อาหาร เน้นพืชผัก ธัญพืช เนื้อปลา ออกกำลังกาย มีกิจกรรมทางกายอื่น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ถึง 5 วันวันละ 30 นาที ที่สำคัญลืมไม่ได้คือกันนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง

“ความเชื่อที่ระบุว่าติดเชื้อกันทั้งบ้านแล้วไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากนั้นไม่จริง เพราะมีโอกาสที่จะรับสายพันธุ์อื่นๆ เข้ามาได้ ต่อให้ติดเชื้อกันทั้งบ้านก็อาจจะมีการแลกเปลี่ยนเชื้อภายในบ้านทำให้อาการรุนแรงได้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะติดแล้วหรือยังไม่ติดก็ตาม หากมีการรวมตัวกันก็ขอให้สมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่างและล้างมือบ่อยๆ” นพ.เอกชัย กล่าว