วิจัยชี้ 'โควิด-19' อาจอยู่ใน 'บราซิล' ตั้งแต่ธ.ค. 2019
บราซิเลีย, 14 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (12 ม.ค.) สำนักสาธารณสุขรัฐเอสปีรีตูซานตูของบราซิล ประกาศการตรวจพบแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ในตัวอย่างน้ำเลือดที่เก็บเมื่อเดือนธันวาคม 2019 โดยสำนักฯ ระบุว่ามีการเก็บตัวอย่างน้ำเลือด 7,370 รายการ ระหว่างเดือนธันวาคม 2019 จนถึงเดือนมิถุนายน 2020 จากผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไข้เลือดออกและชิคุนกุนยา
ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างข้างต้นพบแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากติดเชื้อไวรัส ในผู้ป่วยต้องสงสัย 210 ราย ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้ 16 ราย มีแอนติบอดีที่บ่งชี้การมีอยู่ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก่อนบราซิลยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ก.พ. 2020 โดยหนึ่งในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวถูกเก็บตัวอย่างในวันที่ 18 ธ.ค. 2019สำนักฯ ระบุว่าแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีจะสามารถตรวจจับได้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อราว 20 วันแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีโรคโควิด-19 ระบาดในบราซิล ช่วงระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม 2019ด้านกระทรวงสาธารณสุขของบราซิลออกคำสั่งให้รัฐเอสปีรีตูซานตูดำเนินการสอบสวนทางระบาดวิทยาเชิงลึก และส่งตัวอย่างน้ำเลือดไปยังมูลนิธิออสวาลโด ครูซ (Oswaldo Cruz Foundation) ในกรุงริโอ เดอ จาเนโร เพื่อทำการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรสแบบย้อนกลับ (RT-PCR)"มีเพียงการตรวจสอบของห้องปฏิบัติการและการสอบสวนทางระบาดวิทยาเชิงลึกเท่านั้น ที่จะทำให้กระทรวงฯ ยืนยันได้ว่าผู้ป่วยเหล่านี้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จริงหรือไม่" กระทรวงฯ ระบุ