รู้จัก ‘ภูมิใจไทย’ พรรคสายกลาง ที่เขย่าเกมอำนาจไทยหลายยุค

รู้จัก พรรคภูมิใจไทย
พรรคภูมิใจไทย (Bhumjaithai Party) เป็นพรรคการเมืองไทยที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2551 โดยเกิดขึ้นในบริบทการสลายตัวของพรรคการเมืองใหญ่อย่างพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคในช่วงปลายปีเดียวกัน
แกนนำกลุ่ม “เพื่อนเนวิน” ที่แยกตัวจากพรรคพลังประชาชน ได้รวมตัวกับอดีตสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตยและกลุ่มการเมืองอิสระ เพื่อจัดตั้งพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายพิพัฒน์ พรมวราภรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และนายมงคล ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค
จุดเปลี่ยนสำคัญ สนับสนุนประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลใหม่
ในช่วงวิกฤตการเมืองปี 2551 พรรคภูมิใจไทยมีบทบาทสำคัญในการหนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้จัดตั้งรัฐบาล โดยร่วมลงมติเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจอย่างชัดเจน
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2552 พรรคได้ปรับโครงสร้างกรรมการบริหาร โดยให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และนางพรทิวา นาคาศัย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ถือเป็นการเข้าสู่ยุคของตระกูลชาญวีรกูล และขยายอิทธิพลทางการเมืองอย่างเป็นระบบ
อุดมการณ์เน้นการบริหาร ขับเคลื่อนด้วยผลงาน
จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยมักเน้นที่ “การพูดแล้วทำ” และความสามารถในการบริหารเชิงเทคนิค โดยพรรคมีบทบาทในกระทรวงหลักที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชน เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์ ทั้งในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน
หลังการเลือกตั้งปี 2554 พรรคกลายเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลเพื่อไทย แต่ยังคงรักษาฐานเสียงในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานและบางพื้นที่ในภาคใต้
นโยบายโดดเด่นยุคอนุทิน กัญชาเสรี-อสม.-เทคโนโลยี
ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ปี 2555 พรรคภูมิใจไทยได้ปรับภาพลักษณ์ใหม่ โดยชูนโยบายที่แตกต่าง เช่น กัญชาเสรี การผลักดันบริการแอปพลิเคชันเช่น Uber ให้ถูกกฎหมาย และการขึ้นค่าตอบแทน อสม. ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มประชาชนในพื้นที่ชนบทอย่างมาก
แม้นายอนุทินจะประกาศพักจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคชั่วคราวในปี 2567 แต่ก็กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง โดยมีนายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายของนายเนวิน ชิดชอบ รับตำแหน่งเลขาธิการพรรค เป็นการถ่ายทอดอำนาจทางการเมืองในรุ่นถัดไป
สัญลักษณ์ใหม่ สีน้ำเงินล้วน กับแนวทางสายกลาง
ปัจจุบัน พรรคภูมิใจไทยยังคงมีบทบาทในรัฐบาล และได้เปลี่ยนตราสัญลักษณ์พรรคเป็นสีน้ำเงินล้วน เพื่อแสดงความยึดมั่นในอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในหลายวาระ แต่พรรคยังคงรักษาความเป็น “พรรคทางเลือก” ที่สามารถเดินได้ทั้งขั้วรัฐบาลและฝ่ายค้านตามจังหวะทางการเมือง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
