อวสานเพจหลังถนนเมืองชลบุรี โพสต์ภาพชวนจัดแข่งรถในทางสาธารณะ

อวสานเพจหลังถนนเมืองชลบุรี โพสต์ภาพชวนจัดแข่งรถในทางสาธารณะ วางเดิมพันเงิน ตำรวจเชิญตัวหัวหน้าแก๊งกะลาดำ แอดมินเพจ รับทราบข้อกล่าวหา

ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 25 มีนาคม 2563 พ.ต.อ.เมฒาวิศ​ ประดิษฐ์​ผล​ รอง​ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รอง ผกก.สืบสวน สภ.ศรีราชา พ.ต.ต.อรรคพงษ์ จตุพรม สว.สืบสวน สภ.ศรีราชา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันควบคุมตัวนายสิทธิชัย สัมฤทธิ์ อายุ 39 ปี หรือแอม นาพร้าว หัวหน้าแก๊งกะลาดำ ในข้อหา สนับสนุนให้ผู้อื่นขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผูอื่นในทาง ซึ่งเป็นแอดมินจัดให้มีการแข่งรถในทางสาธารณะ โดยมีการโพสต์คลิปการแข่งขันเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ แถมยังมีการวางเงินเดิมพันในการแข่งขันในแต่ละรอบ จำนวน 2,000 บาท

พ.ต.อ.เมฒาวิศ​ กล่าวว่า สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามทราบว่ามีเพจเฟซบุ๊กชื่อ หลังถนนเมืองชลบุรี ซึ่งมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ โดยนัดหมายกันที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.สาขาข้าวหลาม เวลา 23.00 น. อีกทั้งยังมีการวางเงินเดิมพันในการแข่งขันด้วย โดยในแต่ละรอบ จำนวน 2,000 บาท ทั้งนี้ มีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชม และแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก

พ.ต.อ.เมฒาวิศ​ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายสิทธิชัย สัมฤทธิ์ อายุ 39 ปี หรือแอม นาพร้าว หัวหน้าแก๊งกะลาดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหา สนับสนุนให้ผู้อื่นขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นในทาง อย่างไรก็ตามอยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะว่ามีผลร้ายที่ตามมาอีกมากมาย และรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชลบุรี-พัทยา กับ “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้

ด้านนายสิทธิชัย ก็ให้การรับสารภาพ ว่าตนเองเป็นแอดมิดเพจเฟสบุ๊กดังกล่าว และเป็นผู้โพสต์ข้อความ คลิปวิดีโอดังกล่าวจริง โดยตนเองมีความความประสงค์ที่จะชักชวนให้ไปแข่งในสนาม ที่ จ.ปทุมธานี แต่การสื่อสารอาจจะผิดพลาด ทั้งนี้ตนเองก็ขออภัยด้วย