PINเซ็นเปิดประตูรับจีน แห่เจรจาซื้อที่ดิน100ไร่
ทันหุ้น - PIN ลงนามสมาคมการค้าไทยจีนกวางตุ้ง เปิดทางเข้าลงทุนในนิคม แย้มนักลงทุนจีนชื่นชอบเจรจาซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ มองนิคมตั้งอยู่ในทำเลทองอีอีซีความต้องการสูง เน้น 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เดินหน้าเพิ่มรายได้ประจำควบคู่ ลุยพัฒนาโลจิสติกส์ พาร์ค ศึกษาโรงไฟฟ้า แสงอาทิตย์-แก๊ส โบรกชูกำไรปี 65 สูง เป้า 4.90 บาท
นายพีร์ ปัทมวรกุลชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับการสมาคมการค้าไทยจีนกวางตุ้ง ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนของรัฐบาลจีน ในการดึงนักลงทุนชาวจีนในมณฑลกวางตุ้ง เข้ามาตั้งโรงงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จะเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางการตลาด ที่สามารถดึงนักลงทุนมาจากมณฑลกวางตุ้งเข้ามาได้
ทั้งนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับการตอบรับของนักลงทุนจีนที่จากหลากหลายพื้นที่ และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาประมาณ 100 ไร่
@ แห่ลงทุนอีอีซี
นายพีร์ กล่าวอีกว่า การที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทำให้ได้รับความสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการขยายธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าลงทุนในไทยมาก่อนแล้ว ทั้งกลุ่มลูกค้าจีนและเกาหลีใต้ ในอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น
สำหรับนักลงทุนจากต่างชาติรายใหม่ที่ไม่เคยลงทุนในไทย ที่ติดต่อเข้ามามีสัดส่วนประมาณ 30% ในอุตสาหกรรมที่หลายหลาย เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นการหาข้อมูล เพื่อเตรียมความพร้อมเตรียมรอการโอน หากทางจีนมีการเปิดประเทศหลังโควิด
@ ดันรายได้ประจำ
ด้านแผนการดำเนินงานปี 2565 จะเน้นกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ โดยมีเป้าหมายเพิ่มขึ้น 20% แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. โครงการ Logistics Park ที่ให้บริการแบบครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ มีโรงงานให้เช่าและคลังสินค้า แบ่งออกเป็น General Zone, Free Zone และ Commercial Zone 2. เรื่องการบริหาร การจัดการน้ำภายใน PIN 1-5 และ3. เรื่องพลังงานธรรมชาติ ทั้งไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากแก๊ส ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ ขณะที่การลงทุนปี 2565 จะมุ่งเน้นในการพัฒนาโครงการลงทุนพื้นที่โลจิสติกส์ โดยงบลงทุนจะอยู่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนอื่นจะเป็นการร่วมทุน ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง พลังงานแสงอาทิตย์ และ สาธารณูปโภคอื่นๆ อีกด้วย
@ปีหน้ายอดขายแรง
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง PIN ว่าเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการนิคมรายใหญ่ในตะวันออก 1 ใน 5 ที่คาดว่ายอดขายที่ดินจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2565 เป็นต้นไป หนุนโดย 1. พื้นที่นิคม และ Logistics Park ทั้งหมด 7 แห่ง อยู่ใน EEC ที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนสูง 2. คาดความต้องการซื้อที่ดินในนิคม โดยเฉพาะพื้นที่ EEC เพื่อการลงทุน จะยังอยู่ในระดับสูง สังเกตจากมูลค่าการลงทุนที่ขอ BOI ในช่วง 6 เดือนปี 2564 ที่ 3.86 แสนล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 158% และ 3. คาดว่านิคม PIN 6 phase 1(พื้นที่ประมาณ 940 ไร่) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และเริ่มขายในช่วงไตรมาส 4/2564 จะมียอดขายที่ดินที่สูงในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า เนื่องจากยอดขายที่ดินจะเพิ่มขึ้นสูงเป็นปกติในช่วงแรกของการเปิดนิคมตามตัวเลือกพื้นที่ให้ลูกค้าเลือกเข้าลงทุนในด้านทำเล และขนาดพื้นที่
ทั้งนี้คาดรายได้ประจำของบริษัทจะปรับตัวขึ้นในปี 2565 ปี เติบโต 25% จาก 1. พื้นที่ให้เช่าโครงการ Logistics Park ที่คาดว่าจะทยอยเริ่มดำเนินงานในปี 2565 กำไรสุทธิปี 2565 จะฟื้นตัวสูง จากที่หดตัวในปี 2564 ประเมินกำไรสุทธิปี 2564 จะหดตัว -39% YoY อยู่ที่ 247 ล้านบาท จากยอดโอนที่ดินที่ลดลงเป็น 128 ไร่ ขณะที่กำไรสุทธิปี 2565 จะกลับมาขยายตัว +96% อยู่ที่ 482 ล้านบาท จาก 1.ยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น และทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 255 ไร่ หนุนโดยการเปิดขายที่ดินในนิคม PIN 6 และการเดินทางระหว่างประเทศที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ประเมินราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 4.90 บาท