เปิดทำการสัปดาห์แรกปี'65 กรุงศรีคาดกรอบเงินบาทอ่อน ทรงตัว 33.10-33.50 บาทต่อดอลลาร์

ข่าววันนี้ น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10-33.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ปี 2564 เงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในกลุ่มสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ของเอเชียที่อัตรา 11.1% จากการทรุดตัวของภาคท่องเที่ยวอย่างยาวนานทำให้ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ยกเว้นเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางช่วงสิ้นปี

น.ส.รุ่งกล่าวว่า ขณะที่ตลาดเปิดรับความเสี่ยงและมองข้ามการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลก เนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าวมีแนวโน้มรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และหลายประเทศไม่ได้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเท่ากับระลอกก่อนหน้า

น.ส.รุ่งกล่าวต่อว่า ทางด้านสหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ 9.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้นและยอดส่งออกลดลง อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 เงินยูโรและเงินเยนอ่อนค่าลง 7.0% และ 11.4% ตามลำดับ โดยเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากการปรับท่าทีอย่างมีนัยสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อปูทางไปสู่การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขณะที่สหรัฐเผชิญความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ทั้งจากการทะยานขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มอาหารและพลังงาน รวมถึงตลาดแรงงานที่เข้าสู่ภาวะตึงตัว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 48,578 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 145,917 ล้านบาท

“นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานการประชุมเฟดรอบล่าสุด และข้อมูลการจ้างงานเดือนธันวาคม 2564 ของสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าเฟดจะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในไตรมาสปัจจุบันและขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งรวม 0.75% ในปี 2565 ขณะที่เฟดยังไม่ได้ระบุถึงแนวทางการลดสภาพคล่องส่วนเกินในระบบผ่านมาตรการ Quantitative Tightening ซึ่งกรุงศรีคาดว่าจะเป็นประเด็นสำคัญและจะสร้างความผันผวนให้กับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายในปีนี้” น.ส.รุ่งกล่าว

น.ส.รุ่งกล่าวต่อว่า สำหรับปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดหลังเทศกาลปีใหม่และมาตรการควบคุมโรค รวมถึงแนวทางการกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะข้างหน้า ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานยอดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพฤศจิกายน 2564 เกินดุล 0.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการพลิกกลับมาเกินดุลครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 โดยกรุงศรีมองว่าการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวยังคงขึ้นอยู่กับพัฒนาการด้านสาธารณสุขของโลกเป็นหลัก