วิกฤตน้ำท่วมใต้ เสียหายเท่าไหร่ รัฐมีแผนฟื้นฟูอย่างไร เยียวยาผู้เสียหายแค่ไหน ?

สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ น้ำเริ่มลด ระบายต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วงของการเยียวยา และฟื้นฟู ซึ่งรัฐบาล และภาคส่วนต่างๆ นั้น ได้เริ่มประกาศถึงแผนรับมือกับการฟื้นฟู เยียวยาผู้เสียหายในหลายระยะ รวมถึงการประเมินความเสียหาย ที่รวมไปถึงชีวิตของผู้คนที่ไม่อาจประเมินได้ด้วย
อุทกภัยใต้ เสียหายเท่าไหร่ ?
อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ช่วงปลายปี พ.ศ. 2568 ได้รับการประเมินว่าเป็น "วิกฤตมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี" ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ถึง 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, และนราธิวาส. ภัยพิบัติครั้งนี้ไม่ได้สร้างความสูญเสียเฉพาะต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยวของภูมิภาค
โดยในเบื้องต้นข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อประชาชนรวมแล้วราว 8 แสนครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4 แสนไร่
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบใน 9 จังหวัดภาคใต้ ว่ากินพื้นที่ 105 อำเภอ 723 ตำบล 5,381 หมู่บ้าน. มีประชาชนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงรวม 1,226,627 ครัวเรือน หรือประมาณ 3,542,583 คน
ทั้งหากรวมความเสียหายด้านธุรกิจของนิติบุคคลใน 9 จังหวัดทางภาคใต้ ได้รับผลกระทบกว่า 57,541 ราย ทุนจดทะเบียนรวมมากกว่า 3.5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวในสงขลาสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียลดลงร้อยละ 7-18 การสูญเสียรายได้จำนวนมากในช่วงฤดูท่องเที่ยวเช่นนี้ ยังส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในระยะยาว
รวมไปถึงความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินได้อย่างชีวิตของผู้คนนั้น คาดว่าจะทะลุมากกว่า 200 รายแล้ว
รัฐเตรียมแผนฟื้นฟูอย่างไร ?
ศูนย์ปฏิบัติการกลาง (ศป.กฉ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ– เยียวยา – ฟื้นฟู ใน 3 ระยะ คือ 1 ช่วยเหลือเร่งด่วน, 2 เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และระยะที่ 3 ฟื้นฟูสู่ภาวะปกติ
โดยในระยะเยียวยาได้เคาะมาตรการ จ่ายเยียวยา 9,000 บาทต่อครัวเรือนในทันที เพดานการช่วยเหลือสูงสุดที่ผู้ประสบภัยจะได้รับคือ ไม่เกิน 29,000 บาทต่อครัวเรือน ทั้งเตรียมมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยประชาชนและผู้ประกอบการ โดยธนาคารของรัฐจะปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% ในปีแรก และอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นในปีถัดไป รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยสำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาท เวลาหนึ่งปี รวมถึงเร่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จ่ายเงินเคลมประกันรถ-บ้าน
ด้านลูกจ้างประมาณ 200,000 รายในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบนั้น ได้ใช้สิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย โดยกองทุนประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนเป็น 50% ของค่าจ้างรายวัน (ไม่เกิน 6 เดือน) ให้แก่ผู้ประกันตนที่ไม่สามารถไปทำงานได้ นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้ง ศูนย์ซ่อมสร้าง เพื่อช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือนเบื้องต้นหลังน้ำลดด้วย
ขณะที่รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาวงเงินที่จะสนับสนุนการทำความสะอาดบ้านเรือนเพิ่มเติมให้กับผู้ประสบภัย ขณะเดียวกันได้อนุมัติเงินช่วยปลงศพสำหรับผู้เสียชีวิตศพละ 2,000,000 บาท
ทั้งในกรณีผู้เสียชีวิตเอง ประกันสังคมก็มีการจ่ายเงินในกรณีเสียชีวิตด้วยเหตุที่ไม่เนื่องจากการทำงาน ทายาทของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม ดังนี้ 1. เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท 2. เงินบำเหน็จชราภาพพร้อมผลตอบแทน และ 3. เงินสงเคราะห์กรณีตาย สำหรับผู้ประกันตนที่มีการส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 36 เดือนขึ้นไป
และในส่วนของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1 จ่าย เดือนละ 70 บาท ทางเลือกที่ 2 จ่าย เดือนละ 100 บาท เสียชีวิต ได้รับค่าทำศพ 25,000 บาท และส่งเงินสมทบมาแล้ว 60 เดือน ก่อนเสียชีวิต รับเพิ่ม 8,000 บาท ในส่วนของทางเลือกที่ 3 จ่าย เดือนละ 300 บาท เสียชีวิต ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท ซึ่งผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือก 2 และ 3 จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมผลตอบแทน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
