รีเซต

รวบ “โจ้ ชาแนล” ตระเวนลักแบรนด์เนม ขายต่อ ของกลาง มูลค่า 6 แสน

รวบ “โจ้ ชาแนล” ตระเวนลักแบรนด์เนม ขายต่อ ของกลาง มูลค่า 6 แสน
มติชน
10 มิถุนายน 2565 ( 14:01 )
218
รวบ “โจ้ ชาแนล” ตระเวนลักแบรนด์เนม ขายต่อ ของกลาง มูลค่า 6 แสน

ตำรวจภูธรบ้านเป็ด จังหวัดขอนแก่น จับกุม “โจ้ ชาแนล” คนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์กระเป๋าแบรนด์เนม ตามบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชน แล้วนำไปประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท พบประวัติก่อคดีและติดคุกมาอย่างโชกโชน พร้อมขยายผลตามจับได้อีก 1 ราย

 

วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.บ้านเป็ด เข้าตรวจสอบของกลางในคดีลักทรัพย์จำนวนหลายรายการที่ตรวจยึดได้จากนายชัดชัย หรือ โจ้ ราชบัณฑิตย์ อายุ 40 ปี  ชาว ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุตระเวนขโมยลักทรัพย์สินตามบ้านเรือนประชาชน และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.156/65 ลง 9 มิ.ย.65 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” โดยของกลาง ประกอบด้วย กระเป๋า นาฬิกาและแว่นตาแบรนด์เนมยี่ห้อต่างๆ เช่น ชาแนล หลุยวิตตอง แทคฮอยเออร์ กุชชี่ ดิออร์ รวมมูลค่าประมาณ 600,000 บาท นอกจากนี้ยังมี โน้ตบุ๊ค ลำโพงชาแนล และเงินสด ที่ตรวจยึดมาได้จากผู้ต้องหารายนี้ โดยก่อเหตุเมื่อวันที่ 22 พ.ค.65 เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ หมู่บ้านบุราศิริ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น และบ้าน หมู่บ้านภาภิรมย์ ถ.เหล่านาดี ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13ม.ค.65 เวลา 01.30 น.โดยวันนี้มีผู้เสียหายมาแสดงตัวเป็นเจ้าของกระเป๋าและทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อรับคืน

 

พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.บ้านเป็ด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายคน ว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยเอาทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน โดยเฉพาะกระเป๋ายี่ห้อแบรนด์เนมที่มีมูลค่าสูง ต่อมาชุดสืบสวนฯ จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน กระทั่งสืบทราบว่า มีคนนำเอากระเป๋าแบรนด์เนมของผู้เสียหาย ไปโพสต์ขายในหน้าเพจเฟซบุ๊คชื่อ “nay big brandname” ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้ประสานกับ พ.ต.ต.สัญญา ลิ้มประเสริฐ สว.สส.กก.3 บก.สส.ภาค 6 ลงพื้นที่ไปยังร้านค้าดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพบกระเป๋าที่โพสต์ขาย พบว่า ตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ จึงตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด เมื่อสอบสวนทราบว่า ได้ซื้อกระเป๋าทั้งหมดมาจากร้าน “โตไกลลิสซิ่ง2” อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และพบตัวผู้ต้องหากำลังนำทรัพย์ที่ได้มาจากการขโมยมาขายอีก เป็นครั้งที่ 2 ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมและนำตัวมาสอบสวนขยายผล ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านต่าง ๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่นหลายคดี

 

สำหรับนายโจ้ พบมีประวัติก่ออาชญากรรมคดีลักทรัพย์ มาตั้งแต่อายุ 30 ปี เคยติดคุกมาแล้ว จำนวน 3 ครั้ง เมื่อปี 2547 ในเขตพื้นที่ สภ.ธัญญบุรี จำคุก 6 ปี เมื่อปี 2555 ก่อคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.อุดมสุข กรุงเทพมหานคร จำคุก 4 ปี 6 เดือน เมื่อปี 2557 ก่อคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.โคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร จำคุก 1 ปี 1 เดือน ล่าสุดเมื่อปี 2565 ก่อคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองอุดรธานี อยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยจะออกตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชนในหลายจังหวัดทั่วประเทศ

 

นอกจากนี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเป็ด ยังได้มีการขยายผลจากการจับกุมตัวนายโจ้ จนสามารถจับกุมผู้ต้องในคดีลักทรัพย์เพิ่มเติมอีก คือ นายศิริรัตน์ หรือ จ่อย จันทร์เทพย์ อายุ 41 ปี ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.158/65 ลง วันที่ 9 มิ.ย.65 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” ได้พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์มือถือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ค.65 ที่ บ้านโนนสวรรค์ ม.6 ต.แดงใหญ่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ซึ่งเข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ 1 จำนวนเครื่อง เงินสดจำนวน 13,000 บาท และที่บ้านหนองหลุบ ม.7 ต.แดงใหญ่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พ.ค.65 เวลาประมาณ 03.00 น. รวมทั้งเข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือไอ้โฟนจำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 9,000 บาท ที่บ้านเลขที่ 1 บ้านพรสวรรค์ ม.13 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 พ.ค.65 เวลาประมาณ 21.00 น. ตรวจสอบประวัติการก่ออาชญากรรม พบว่า มีคดีลักทรัพย์และเคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้ว จำนวน 3 ครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง