รีเซต

ดีอีเอส ร่วมตำรวจไซเบอร์ ล่าแฮกเกอร์สาวหลอกลูกค้าโรงแรมกักตัวโอนเงิน

ดีอีเอส ร่วมตำรวจไซเบอร์ ล่าแฮกเกอร์สาวหลอกลูกค้าโรงแรมกักตัวโอนเงิน
TNN ช่อง16
27 ตุลาคม 2564 ( 13:35 )
73
ดีอีเอส ร่วมตำรวจไซเบอร์ ล่าแฮกเกอร์สาวหลอกลูกค้าโรงแรมกักตัวโอนเงิน

วันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่กระทรวงดิจิทัล ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นางสาวพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.พปชร. นำตัวแทนกลุ่มชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยมิติใหม่ หรือ กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมกักตัว (ASQ) 19 แห่ง เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนแก่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ตีอีเอส) พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังถูกแฮกเกอร์สวมรอยหลอกโอนเงิน ทำให้ได้รับความเสียหายหลายล้านบาท


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยมิติใหม่ ประกอบการโรงแรมกักตัว (ASQ) ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวคนไทยหรือต่างชาติ ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีการจองโรงแรมผ่านระบบเวปไซด์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งก็เป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของโรงแรม ส่งอีเมล์ถึงลูกค้าหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง หรือของกลุ่มแฮกเกอร์ จนทำให้โรงแรม เมื่อถึงเวลาที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเข้าพักยังโรงแรมกลับเข้าพักไม่ได้เนื่องจากทางโรงแรมไม่ทราบว่าผู้เสียหายมีการจองไว้ก่อน และมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ทางผู้ประกอบการจึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน ซึ่งทางกระทรวงดีอีเอส ก็ได้ประสานไปยัง บช.สอท. ให้ช่วยดำเนินการอย่างเร่งด่วนแล้ว 


ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากเป็นการฉ้อโกงทั้งกับประซาชนผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อและโรงแรมที่ถูกแอบอ้างชื่อ ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแก่การท่องเที่ยวไทย ที่กำลังจะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย นี้ด้วย ซึ่งทางกระทรวงฯ และตำรวจไซเบอร์จะร่วมดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง


ด้าน พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงาน ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 รายและสามารถจับกุมได้แล้ว ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นเจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหาย และยังได้ขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาตีสนิทกับคนไทยและใช้บัญชีคนไทยในการก่อเหตุ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง