“สุวัฒน์ สินสาฎก” บล.โกลเบล็ก ชี้หุ้นไทยรับข่าวร้ายหมดแล้ว! มองครึ่งปีหลังดีกว่าเดิม

จับสัญญาณบวกตลาดหุ้นไทย! “สุวัฒน์ สินสาฎก” กรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก มองตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง 2568 มีทิศทางที่ดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างชัดเจน ชี้ตลาดซึมซับปัจจัยลบไปเกือบทั้งหมดแล้ว ทำให้มีความทนทานสูง พร้อมจัดทัพหุ้นเด่นน่าลงทุน แบ่งเป็น 2 กลุ่มตามสไตล์ความเสี่ยง ทั้งกลุ่มลุ้นฟื้นตัวแรงและกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของจีน
คุณสุวัฒน์ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีหลังจะสดใสกว่าที่ผ่านมา แม้จะยังมีความเสี่ยงใหญ่เรื่องภาษีการค้าของสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าตลาดได้รับรู้และสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ไปในราคาหุ้นเกือบหมดแล้ว
"ปัจจัยทุกๆ อย่างที่ไม่ดี ผมคิดว่ามันถูกใส่เข้าไปในราคาหุ้นเกือบหมดแล้ว สังเกตดูว่าตลาดหุ้นเราเจอเรื่องราวมามากมาย แต่ดัชนีไม่เคยหลุด 1,000 จุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทาน ถ้าหลังจากนี้มีอะไรดีๆ เข้ามา ก็อาจจะทำให้ตลาดขึ้นได้ดี" คุณสุวัฒน์กล่าว
เจาะลึกประเด็นภาษี: ทำไมไม่น่ากลัวอย่างที่คิด?
คุณสุวัฒน์ได้ให้มุมมองต่อประเด็นภาษีที่หลายคนกังวลว่าไม่ควรพิจารณาแค่ "อัตราภาษี" เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองให้ครบ 3 มิติ คือ:
อัตราภาษี: เชื่อว่าท้ายที่สุดไทยจะไม่โดนเรียกเก็บถึง 36% ตามที่กังวลกัน
มูลค่าการค้า: ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐฯ น้อยกว่าเวียดนามถึง 3 เท่า ทำให้มีอำนาจต่อรองที่แตกต่างกัน
ความจำเป็นของสินค้า: สินค้าส่งออกสำคัญของไทยหลายรายการ เช่น ยางรถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางชนิด (เช่น Power Supply ของ DELTA) เป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ไม่สามารถหาจากที่อื่นมาทดแทนได้ง่าย (No Substitution) ทำให้ผู้ผลิตไทยมีอำนาจต่อรองในการแบ่งรับภาระภาษี ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด
เปิดโผหุ้นพระเอกครึ่งปีหลัง: แบ่ง 2 สไตล์ความเสี่ยง
บล.โกลเบล็ก ได้แบ่งกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสำหรับครึ่งปีหลังออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่มเสี่ยงสูง-ผลตอบแทนสูง (High Risk, High Return)
เป็นกลุ่ม หุ้นส่งออก ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากประเด็นภาษี แต่มีโอกาสฟื้นตัวกลับได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงหากมีความชัดเจนในทิศทางที่ดีกว่าคาด เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง
หุ้นเด่น: DELTA (เป้าหมาย 120 บาท), กลุ่มยางพารา, และกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง เช่น AAI
"หุ้นเดลต้าโดนปัจจัยลบหลายเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่พื้นฐานบริษัทมีความเก่งในการสร้างนวัตกรรมและเติบโตไปกับเทรนด์ AI ของโลกได้" คุณสุวัฒน์ให้ความเห็น
2. กลุ่มปลอดภัย-อิงการฟื้นตัวของจีน
เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ น้อย แต่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนว่ากำลังหันมาเน้นการเติบโตจากอุปสงค์ในประเทศ
หุ้นเด่น: กลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ โดยมี SCC (ปูนใหญ่) เป็นหุ้นนำ (เป้าหมาย 200 บาท) และ PTTGC (เป้าหมาย 24-25 บาท)
คุณสุวัฒน์ชี้ว่า การที่หุ้นไทยที่ไปจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นดัชนีชี้วัดว่าเศรษฐกิจจีนและอุปสงค์ในภูมิภาคยังมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นไทยที่เชื่อมโยงกับจีนโดยตรง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
