รีเซต

ห่วง 36 ล้านคนเคว้ง "ชาญกฤช" สอนมวยเงินดิจิทัลฯ เฟส 2 ต้องชัด อย่าให้ความหวังชาวบ้านอย่างเลื่อนลอย

ห่วง 36 ล้านคนเคว้ง "ชาญกฤช" สอนมวยเงินดิจิทัลฯ เฟส 2 ต้องชัด อย่าให้ความหวังชาวบ้านอย่างเลื่อนลอย
TNN ช่อง16
24 กันยายน 2567 ( 20:43 )
15
ห่วง 36 ล้านคนเคว้ง "ชาญกฤช" สอนมวยเงินดิจิทัลฯ เฟส 2 ต้องชัด อย่าให้ความหวังชาวบ้านอย่างเลื่อนลอย

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ว่า พรรคพลังประชารัฐได้ติดตามการทำงานของรัฐบาล และรวบรวมความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา มองว่าโครงการนี้สะท้อนกระบวนการทางความคิดของรัฐบาลว่ายังไม่ครบ 360 องศา ทำงานแบบคิดไปทำไป แก้ไขปัญหาประจำวัน ส่งผลประชาชนทั่วประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   เช่น กรอบเวลาการดำเนินงานในช่วงที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง ระบุว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินโครงการทันที แต่ท้ายที่สุดมีการปรับเลื่อนมาตลอด รวมถึงแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ ซึ่งตอนหาเสียงแจ้งว่าไม่กู้ แต่จะใช้งบประมาณแผ่นดิน ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาหลายครั้ง สุดท้ายเป็นเงินงบประมาณปี 2567 และงบประมาณปี 2568 สร้างความสับสนให้กับประชาชน 

 

นอกจากนี้ การดำเนินการของรัฐบาลยังเป็นไปอย่างรีบเร่ง เนื่องจากนำเงินงบประมาณปี 2567 มาใช้และต้องสั่งจ่ายภายในเดือน ก.ย.ปี 2567 จึงเป็นเหตุผลว่าเฟสหนึ่งต้องเร่งจ่ายเป็นเงินสดให้ประชาชนกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนก่อน ซึ่งไม่เป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้

 

"ตอนหาเสียงบอกจะแจก 50 ล้านคน เป็นรัฐบาลปรับลดลงเหลือ 36 ล้านคนที่ลงทะเบียน ส่วนรูปแบบการแจกระบุเป็นเงินดิจิทัล สวยหรูดูดี แต่กลับแจกเป็นเงินสดเพียง 14.5 ล้านคน ตั้งคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แต่ผลลัพธ์การทำงาน ในเดือน ส.ค.2567 มีการประมูลจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการชำระเงิน แต่ไม่มีผู้เสนอเข้าร่วมจัดซื้อจัดจ้างทำการประมูลล้ม" นายชาญกฤช กล่าว

นายชาญกฤช  ยังได้ตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า  เหตุใดรัฐบาลจึงต้องประชาสัมพันธ์อย่างเร่งรัดกระชั้นชิด สร้างความสับสน ยุ่งยากให้กับกลุ่มเปราะบาง ต้องเร่งไปผูกพร้อมเพย์กับธนาคารพาณิชย์ โดยไม่เผื่อเวลาให้ผู้มีส่วนได้เสียมีเวลาดำเนินการ ถือเป็นข้อบกพร่องในการประชาสัมพันธ์อย่างสิ้นเชิง ส่วนประชาชนในกลุ่มเปราะบาง จำนวน 14.5 ล้านคน ที่มีสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท ยังมีอีก 2 ล้านคน ที่ยังยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC ไม่สำเร็จ ต้องขอความอนุเคราะห์รัฐบาลโปรดให้ความช่วยเหลือ ให้เข้าแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เพื่อให้ยืนยันตัวตนให้ครบสามารถรับสิทธิ์รับเงินสด 10,000 บาท ต่อไป

 

นายชาญกฤช กล่าวว่า ส่วนการแจกเงินเฟส 2 ที่มีการตั้งคำถามว่าเฟส 2 มีจริงหรือไม่ จะได้รับเงินจริงหรือไม่ จะได้รับครบ 10,000บาทหรือไม่ หรือต้องแบ่งจ่ายเป็นกี่งวด หลังประชาชน 36 ล้านคนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ยังเคว้ง รัฐบาลยังไม่ชี้แจงหรือประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในเฟส 2 ได้เข้าใจอย่างกระจ่างชัด  ทั้งนี้ งบประมาณปี 2568 จึงขอเสนอแนวทางว่าหากต้องจ่าย 10,000 บาทรวดเดียว ให้กับประชาชน 22 ล้านคน ให้ไปขอเจียดงบประมาณจากกระทรวงต่างๆ มา 4 หมื่นล้าน แล้วสามารถจะเร่งจ่ายในเฟส 2 ให้เสร็จภายในปีนี้ หรือแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดๆละ 5,000 บาท งวดแรกรีบจ่ายได้เลย เพราะมีเงินสำรองไว้อยู่แล้ว ส่วนงวด 2 ไปพิจารณาในงบประมาณปี 2569 หากยังไม่พอ ก็ตั้งงบประมาณเพิ่มเติมในปี 2569 ดังนั้นในต.ค.ปี 2568 ถือว่าจ่ายครบหมดแล้ว

 

"ขอเตือนรัฐบาลว่าต้องรับผิดชอบไม่ปล่อยให้ประชาชนเฟส 2 มีความหวังอย่างเลื่อนลอย และไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังไปมากกว่านี้ เพราะได้รับเงินล่าช้า นอกจากนั้นรัฐบาลควรเร่งประสานความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการขออนุญาตเงินดิจิทัลให้เป็นไปตามกฎหมายเงินตราของประเทศ และสร้างความปลอดภัยทางเทคนิค ที่ต้องทำให้แอปฯเชื่อมกับธนาคารต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจสูงสุดได้ว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหล" นายชาญกฤช กล่าว

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง