รีเซต

อย่าหาทำ! หนุ่มอยากวัดความยาว สอดสาย USB เข้าองคชาต สุดท้ายติดแหง็ก

อย่าหาทำ! หนุ่มอยากวัดความยาว สอดสาย USB เข้าองคชาต สุดท้ายติดแหง็ก
ข่าวสด
18 กันยายน 2564 ( 15:33 )
198
อย่าหาทำ! หนุ่มอยากวัดความยาว สอดสาย USB เข้าองคชาต สุดท้ายติดแหง็ก

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นเหตุ ทำให้วัยรุ่นบริติชลองวัดขนาดอวัยวะเพศชายด้วยการสอดสายเคเบิลเข้าไปในรูปัสสาวะ แต่มันดันเอาไม่ออกซะงั้น

 

 

Urology Case Reports รายงาน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเด็กหนุ่มวัย 15 ปี พยายามวัดความยาวขององคชาตด้วยการสอดใส่สาย USB แต่ทว่าเกิดความผิดพลาดทำให้สายพันกันเป็นปมติดแหง็กอยู่ภายในอวัยวะเพศ พร้อมปลายสายห้อยออกมา

 

 

หนุ่มน้อยพยายามถอดมันออกด้วยตนเองหลายครั้ง แต่ไม่สามารถทำได้จนกระทั่งเขาเริ่มปัสสาวะเป็นเลือด จากนั้นเด็กหนุ่มจึงยอมบอกครอบครัวให้พาเขาไปที่โรงพยาบาล

 

 

จากการส่องกล้องตรวจทางเดินปัสสาวะแสดงตำแหน่งของปมอยู่ค่อนข้างลึก ทำให้พยาบาลที่ดึงสายเคเบิลด้วยเครื่องมือพิเศษก็เกิดความล้มเหลวเช่นกัน

 

 

เด็กหนุ่มถูกส่งตัวไปเอ็กซเรย์ เพื่อหาตำแหน่งผูกปมของสายเคเบิลที่แน่นอน ก่อนรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ซึ่งได้รับการตรวจสอบว่ามีสุขภาพดี สมบูรณ์ และไม่มีประวัติความผิดปกติทางจิต

 

 

ศัลยแพทย์ทำการผ่าตามยาวเข้าไปในกล้ามเนื้อ Bulbospongiosus ซึ่งเป็นบริเวณระหว่างอวัยวะเพศและทวารหนัก ทำให้หมอสามารถถอดส่วนที่ผูกปมของสายเคเบิลผ่านรอยบาก ก่อนที่จะทำการถอดสายเคเบิลที่เหลือออกทางช่องเปิดขององคชาตได้สำเร็จ

 

 

โชคดีที่ในการพักฟื้นไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ เด็กหนุ่มจึงสามารถกลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น จากการส่องกล้อง เอ็กซเรย์ และอัลตราซาวด์ติดตามผลสองสัปดาห์หลังการผ่าตัด พบว่าไม่มีความผิดปกติ แต่แพทย์ยังคงติดตามอาการอย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

 

แพทย์เตือนว่า หากนำสิ่งใดสอดใส่อวัยวะเพศที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ก็อาจทำให้มีความเสี่ยงและปัญหามากมาย ไม่ว่าจะความเจ็บปวดจากการแข็งตัวของอวัยวะเพศ การเกิดรูในกระเพาะปัสสาว กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือปัสสาวะเป็นเลือด นอกจากนี้ ยังสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

 

ดร. อเมอร์ ราฮีมที่ปรึกษาและวิทยาวิทยาจากคลินิกเอกชน International Andrology London กล่าวกับ MailOnline ว่า “แม้ว่าการผ่าตัดจะประสบผลสำเร็จและไม่มีภาวะแทรกซ้อนในทันที แต่ภายหลังอาจเกิดการพัฒนาท่อปัสสาวะให้แคบลงได้

 

 

ผมคิดว่าหลาย ๆ คนมองการกระทำเช่นนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดนี้จะต้องขอบคุณโซเชียลมีเดียที่สรรหาวิธีการแพร่ข้อมูลที่ผิด ๆ ให้ง่ายขึ้น ซึ่งผมขอแนะนำว่าควรใช้วิจารญาณในการเลือกรับสารก่อนจะดีกว่า"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง