รีเซต

แม่สาวคลั่งวอนเห็นใจ ลูกระแวงรัดคอ-กัดหู โชเฟอร์แท็กซี่ ทำรถพุ่งตกคูน้ำ

แม่สาวคลั่งวอนเห็นใจ ลูกระแวงรัดคอ-กัดหู โชเฟอร์แท็กซี่ ทำรถพุ่งตกคูน้ำ
ข่าวสด
21 ตุลาคม 2563 ( 13:47 )
102

แม่สาวคลุ้มคลั่ง รุดขอโทษโชเฟอร์แท็กซี่ ยันลูกหวาดระแวงเพราะตื่นมาเจอถนนเปลี่ยว กลัวไม่ปลอดภัย เลยรัดคอ-กัดหู ทำให้แท็กซี่พุ่งตกคูน้ำ วอนอย่าเอาผิด

จากกรณี น.ส.กนกวรรณ อายุ 39 ปี ก่อเหตุใช้สายกระเป๋าสะพายรัดคอ นายประสิทธิ์ โพธิ์แก้ว อายุ 52 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน ทส 2401 กรุงเทพ เหตุเกิดบนถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทำให้รถแท็กซี่เสียหลักตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าระงับเหตุและควบคุมตัว น.ส.กนกวรรณ มาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

ล่าสุดวันที่ 21 ต.ค. 63 นางอารมณ์ อายุ 65 ปี แม่ของ น.ส.กนกวรรณ เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางบัวทอง เพื่อเข้าเยี่ยมลูกสาว และขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับนายประสิทธิ์ โชเฟอร์แท็กซี่

นางอารมณ์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับลูกสาวแล้วเมื่อเช้านี้ เขาบอกว่าสาเหตุที่ทำให้เขาอาละวาดใส่รถโชเฟอร์รถแท็กซี่นั้น เป็นเพราะเมื่อเขาเรียกรถแท็กซี่มารับให้ไปส่งที่ลำลูกกา เขาก็นั่งหลับไป กระทั่งมารู้สึกตัวอีกที รถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งถนนมืดและเปลี่ยว ประกอบกับลูกสาวตนไม่คุ้นเคยกับเส้นดังกล่าว คิดว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่พามากระทำมิดีมิร้าย

จึงอาละวาดด้วยการเอาสายกระเป๋าสะพายรัดคอโชเฟอร์แท็กซี่เพื่อหวังเอาตัวรอด จากนั้นเกิดชุลมุนต่อสู้กันในรถ ลูกสาวตนกัดหูโชเฟอร์ โชเฟอร์ก็กัดแขนลูกตน จนรถเสียหลัก ตกไปที่คูถนนข้างทาง

นางอารมณ์ กล่าวต่อว่า ลูกสาวตนมีอาชีพเป็นหมอนวดแพทย์ไทย มีลูกสาวที่ต้องเลี้ยงดูอีกสองคน ในแต่ละเดือน น.ส.กนกวรรณ จะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเป็นหลัก ทั้งค่ากิน ค่าเทอมนักเรียน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จนกระทั่งมาเกิดโรคโควิด ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปนวดที่ร้านนวดในมาเลเซียได้ ต้องมารับจ้างนวดตามร้านนวดแผนไทยทั่วไป

จึงเกิดความเครียดสะสมเพราะหาเงินได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ตนในฐานะคนเป็นแม่ก็อยากจะขอความเมตตาให้คนขับแท็กซี่เห็นใจ และอภัยให้ลูกสาวตนด้วย หากเขาถูกจับติดคุกไป ตนกับหลานอีกสองคนคงลำบาก ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นก็พร้อมยินดีที่จะจ่ายให้ แต่ถ้าหากเรียกเยอะคงไม่มีจ่ายให้ไหว

ด้านนายประสิทธิ์ โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถแท็กซี่ตนให้พา น.ส.กนกวรรณ ไปส่งที่ลำลูกกา คลอง 2 จ.ปทุมธานี ซึ่งตนก็รับโดยสารขึ้นมาที่หน้าปั๊มน้ำมันแถววัดสวนแก้ว เมื่อขับมาได้สักพักตนกำลังจะหันไปถามว่าจะให้ตนขับไปเส้นทางไหน แต่ น.ส.กนกวรรณ ก็นั่งหลับไปแล้ว ตนจึงเลือกขับมาทางอำเภอบางบัวทอง

กระทั่งขับมาถึงที่เกิดเหตุ น.ส.กนกวรรณ ก็ตื่นขึ้นมาแล้วตะโกนใส่ตนว่า "มึงทำของกูเสื่อมหมดแล้ว มึงตายซะ" จากนั้นเอาสายกระเป๋าสะพายมาคล้องรัดคอตน จนหายใจไม่ออก พร้อมกับตรงเข้ากัดที่ใบหูตนอย่างแรง ด้วยความเจ็บและหายใจไม่ออก ตนจึงกัดเข้าที่มือ น.ส.กนกวรรณ เพื่อให้เขาปล่อยมือได้สำเร็จ รถแท็กซี่ก็เกิดเสียหลักพุ่งลงคูน้ำข้างทาง หน้ารถแท็กซี่ทิ่มจมลงไปในคูน้ำ

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนจึงรีบเปิดประตูหนีออกมาพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือ ตนไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงคลุ้มคลั่งขึ้นมา ทั้งๆที่ตนไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย ไม่แน่ใจว่าอาการที่เขาเป็นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ จะเป็นโรคเครียดหรือยาเสพติด เพราะแม้กระทั่งตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง เขายังให้การวกวนไม่รู้เรื่องเลย

ส่วนตัวแล้วตนไม่ติดใจเอาความ อยากให้เขารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลกับค่าเสียโอกาสที่จะต้องขับรถแท็กซี่ทำมาหากินเท่านั้น ส่วนค่าซ่อมรถแท็กซี่ที่เกิดความเสียหายนั้น ทางเถ้าแก่เจ้าของอู่คงให้รับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมให้ ตามราคาที่ประเมินความเสียหายไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง