รีเซต

กองทัพไทยคุมเข้ม 20 จังหวัดชายแดน ย้ำยิงสกัดโดรนทุกลำที่รุกอธิปไตย

กองทัพไทยคุมเข้ม 20 จังหวัดชายแดน ย้ำยิงสกัดโดรนทุกลำที่รุกอธิปไตย
TNN ช่อง16
3 สิงหาคม 2568 ( 18:58 )
59

มาตรการแอนตี้โดรนไทย หลังพบความเคลื่อนไหวจากกัมพูชา

ในห้วงเวลาที่สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียด ความเคลื่อนไหวที่จับต้องได้ชัดเจนที่สุด คือการตอบสนองอย่างแข็งกร้าวของรัฐบาลไทยต่อปฏิบัติการโดยใช้ “อากาศยานไร้คนขับ” หรือ “โดรน” ที่บินเข้ามาในเขตแดนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต

30 กรกฎาคม 2568

สำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2568 โดยอนุญาตเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งนี้ เป็นมาตรการป้องกันความมั่นคงภายในช่วงเวลาที่ชายแดนมีความเปราะบางจากสถานการณ์สู้รบ

2 สิงหาคม 2568

พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จัดประชุมด่วนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VTC) กับผู้ว่าราชการ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดยกระดับการเฝ้าระวังและบูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป เพื่อจัดตั้งชุดลาดตระเวน ตรวจจับและจัดการกับโดรนต้องสงสัยอย่างเด็ดขาด

ในที่ประชุม ยังเน้นย้ำให้เฝ้าระวังจุดสำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด คลังอาวุธ สถานีขนส่ง สถานีตำรวจ สนามกีฬา และสนามบิน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญทางยุทธศาสตร์ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

3 สิงหาคม 2568 เวลา 12.00 น.

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงจุดยืนชัดเจนของรัฐบาลไทยว่า หากพบโดรนบินรุกล้ำอธิปไตย จะถูกทำลายทันทีโดยไม่ต้องแจ้งเตือน พร้อมระบุว่ามาตรการแอนตี้โดรนของไทยในขณะนี้ “เข้มงวดที่สุดในรอบหลายปี”

โดยเน้นว่า หากตรวจพบว่ามีการใช้อากาศยานไร้คนขับเพื่อจารกรรมหรือก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ จะถูกดำเนินคดีถึงที่สุด โดยหากเป็นชาวต่างชาติ เมื่อดำเนินคดีเสร็จสิ้น จะถูกเนรเทศออกจากประเทศและขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ ห้ามเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอีก



ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากฝ่ายกัมพูชา

ในช่วงเวลาเดียวกัน พลโทมาลี โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกมากล่าวหาว่าไทยส่งโดรนเข้าไปในน่านฟ้ากัมพูชา นายจิรายุจึงออกมาตอบโต้ทันควัน โดยระบุว่า “ประเทศไทยไม่เคยมีนโยบายใช้อากาศยานรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้โดรนในการปฏิบัติภารกิจเช่นนั้นอีกแล้ว”

ปฏิบัติการกำจัดวัตถุระเบิด

ในช่วงเวลาเดียวกัน กองทัพไทยยังคงพบวัตถุอันตรายจำนวนมากในพื้นที่ เช่น กระสุนปืนใหญ่และระเบิด PM21 โดยได้ดำเนินการทำลายทันทีเพื่อความปลอดภัย และได้แจ้งฝ่ายกัมพูชาเป็นทางการล่วงหน้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดระหว่างสองฝ่าย

รัฐบาลไทยและกองทัพมีจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้มีการรุกล้ำอธิปไตยจากอากาศยานไร้คนขับทุกประเภท และพร้อมปกป้องดินแดนไทยในทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความจริงใจในการสื่อสาร หยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง และร่วมกันคลี่คลายวิกฤตชายแดนอย่างสร้างสรรค์

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง