รีเซต

NCL กางแผนปี65 รุกหนักโลจิสติกส์ เพิ่มเส้นทางขนส่ง

NCL กางแผนปี65 รุกหนักโลจิสติกส์ เพิ่มเส้นทางขนส่ง
ทันหุ้น
12 มกราคม 2565 ( 14:07 )
180
NCL กางแผนปี65 รุกหนักโลจิสติกส์ เพิ่มเส้นทางขนส่ง

ทันหุ้น - NCL กางแผนปี 65 ใส่เกียร์เดินหน้าขยายธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งเพิ่มเส้นทางขนส่ง เพิ่มปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมลุยธุรกิจ Fulfillment Center แย้มเปิดทางรับธุรกิจใหม่ สร้างการเติบโตในอนาคต

 

นายพงษ์เทพ  วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565บริษัทยังมุ่งเน้นขยายธุรกิจหลัก เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการขนส่งโลจิสติกส์ที่เปลี่ยนแปลงหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเส้นทางการขนส่งไปยังท่าเรือต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับลูกค้าขนส่งระหว่างประเทศ เพิ่มปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ และการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

 

** เพิ่มธุรกิจใหม่

ขณะเดียวกันยังได้ต่อยอดธุรกิจโกดังสินค้า และเพิ่มธุรกิจใหม่เข้ามาคือ ธุรกิจขนส่งทางบกให้บริการ Fulfillment Center หรือศูนย์รวมสินค้าที่ทำหน้าที่ในการรับสินค้าจากธุรกิจที่ใช้บริการเข้ามาจัดเก็บไว้และการจัดส่งสินค้าให้กับธุรกิจอย่างครบวงจร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาการเป็นพันธมิตรกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบจัดการสินค้าในโกดังเก็บสินค้า คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2565

 

รวมทั้งยังได้เข้าลงทุนในธุรกิจดิจิทัลที่เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีฐานรายได้สม่ำเสมอ และในส่วนของ NCL ยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างมั่นคง จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2565 จะเติบโตไม่น้อยกว่าปี 2564 ซึ่งในงวด 9 เดือนของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 79.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น 507.91%จากงวดเดียวกันปีก่อน

 

** ดีมานด์ขนส่งพุ่ง

กรรมการผู้จัดการ กล่าวอีกว่าการที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีการเปลี่ยนไปมาก จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัท มีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจขนส่ง ทั้งปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือค่าระวางเรือที่คาดว่าจะสร้างฐานราคาใหม่ในไตรมาส 2/2565ซึ่งคาดว่าปีนี้ปริมาณความต้องการขนส่งสินค้ายังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่ง และพื้นที่บนเรือขนส่งที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้เชื่อว่าปริมาณลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการของ NCL เพิ่มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักปีนี้ยังคงมาจากการให้บริการขนส่งทางทะเลมากกว่า 70% และคาดว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้จากธุรกิจใหม่ Fulfillment Center อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนรายได้จาก Non-Logistics ยังเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมขนส่งที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอัตรากำไรต่อรายได้ที่ค่อนข้างสูงในธุรกิจดิจิทัล จึงคาดว่าสัดส่วนกำไรของ Non Logistics จะอยู่ที่ประมาณ 20-25%ของกำไรทั้งหมด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง