Bitkub จับมือเถ้าแก่น้อยแจก NFT ผ่านซองขนมกว่า 600,000 ชิ้น
ครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการจับมือกันระหว่าง 2 บริษัท คนรุ่นใหม่ Bitkub และเถ้าแก่น้อยเพื่อสร้างปรากฏการณ์แจก NFT กว่า 600,000 ชิ้น ผ่านซองขนมเถ้าแก่น้อย ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ผ่านกิจกรรมสะสม Non-Fungible token (NFT) รวมทั้ง NFT คอลเลกชันพิเศษ ครั้งแรกกับ NFT ภาพ หยิ่นวอร์ คู่จิ้นสุดฮอต ให้แฟนคลับได้ตามเก็บสะสมเพื่อร่วมกิจกรรมสุด Exclusive อีกมากมาย เร็ว ๆ นี้
จุดประสงค์ของการร่วมมือกันครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความต้องการผลักดันสตาร์ทอัพไทยและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Non-Fungible Token (NFT) ไปต่อยอดกับซองขนม ซึ่งผู้ซื้อสามารถสแกนรับ Non-Fungible Token (NFT) คอลเลกชันพิเศษเพื่อเก็บสะสมผ่านกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล (Bitkub NEXT) อีกทั้งยังมีการแจก NFT แอร์ดรอปในงานแถลงข่าว
การร่วมมือกันในครั้งนี้ ได้มีการออกแบบ Non-Fungible Token (NFT) คอลเลกชันพิเศษ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย เรื่องราวของเถ้าแก่น้อย (Journey of Tao Kae Noi), เรื่องราวของบิทคับ (Journey of Bitkub) และหยิ่น วอร์ (Idol Yin War 9 Collections) คู่จิ้นที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งเป็นคอลเลกชันสุดพิเศษ ให้แฟนคลับผู้ถือ Non-Fungible Token (NFT) ได้เก็บสะสมเพื่อร่วมกิจกรรมอีกมากมาย
คุณท๊อป จิรายุส ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เผยว่า
“การจับมือร่วมกับเถ้าแก่น้อยในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างแคมเปญทางการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์เท่านั้น แต่คือการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่จะทำให้แฟนของทั้งบิทคับและเถ้าแก่น้อย ได้เปิดประสบการณ์ความสนุกครั้งใหม่ในทุก ๆ ครั้งที่เปิดซองขนม และเป็นครั้งแรกของโลกที่คนทั้งประเทศจะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ไปด้วยกัน”
คุณท๊อป จิรายุส อธิบายเพิ่มเกี่ยวกับกระแสของโลกได้ก้าวเข้ายุคของเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy ในต่างประเทศเริ่มมีการพูดถึงโลกเสมือนจริง AR VR หรือ Metaverse เพิ่มมากขึ้น อินเทอร์เน็ตในอนาคตจะเป็นโลกของ 3 มิติ โลกเสมือนจริง ยุคของเว็บ 3.0 การระบุตัวตนของบุคคลจะเปลี่ยนจากการใช้อีเมล์ เว็บไซต์ แต่ยุคสมัยจะใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงร่างอวตาร (Avatar) การใช้คอมพิวเตอร์สร้างแบบจำลองของบุคคลเพื่อใช้ในการเป็นตัวแทนสื่อสารบนโลกเสมือนจริง Metaverse
แต่ก่อนก้าวเข้าไปถึงจุดดังกล่าวจะเป็นต้องใช้ NFT หรือ Non-Fungible token เพื่อใช้ระบุความถูกต้องของข้อมูลตัวบุคคล เช่น มีการสร้างร่างอวตาร (Avatar) ซ้ำ ๆ ขึ้นมาเพื่อปลอมแปลงข้อมูลตัวบุคคลเทคโนโลยี NFT สามารถใช้ตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลได้ว่าอันไหนถูกต้องและอันไหนถูกปลอมแปลง โดย NFT ใช้การทำงานบนพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
นอกจากใช้ NFT ระบุความถูกต้องของข้อมูลตัวบุคคล ปัจจุบันมีการใช้ NFT ระบุความถูกต้องของข้อมูลดิจิทัล เช่น ไฟล์รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งหากถูกเปลี่ยนเป็น NFT จะสามารถระบุความถูกต้องข้อมูล ยากต่อการปลอมแปลง ความเป็นชิ้นเดียวในโลกของข้อมูลดิจิทัลนั้น ๆ ยกตัวอย่างเพิ่มเติมการใช้ NFT กับศิลปินนักร้องในวงการบันเทิง เช่น การ์ดภาพถ่ายศิลปินคนโปรดที่มีภาพเดียวในโลกโดยใช้ NFT ระบุความถูกต้องของข้อมูล บัตรจับมือศิลปิน ผลงานเพลงหรือภาพวาดของศิลปินคนนั้น ๆ ซึ่งจะเปลี่ยนรูปแบบการตลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า
“เถ้าแก่น้อย เน้นย้ำเรื่องการเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภคและตาม เทรนด์ตามยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา เราอยากให้แบรนด์เข้าถึงไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ต้องเร็ว และ ไม่หยุดนิ่ง เราพยายามเข้าใจ consumer และหาอะไรใหม่ ๆ มา Engage กับ Consumer อยู่เสมอ ที่ผ่านมาก็มีกิจกรรมแปลกแตกต่างมากมาย การเข้ามาทำ NFT บนซองขนมก็เป็นอีกมิติที่จะได้ มาร่วมทำอะไรใหม่ๆกับ ทั้ง Bitkub ที่เก่งเรื่องนี้ และ ทำอะไรใหม่ๆร่วมกับ consumer ให้ได้สนุกกัน เพราะเราอยากให้ เถ้าแก่น้อยเป็น My Brand สำหรับผู้บริโภค NFT ก็เป็นการส่งต่อ เทรนด์ใหม่ๆให้กับ consumer อีกต่อนึง”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ด้วยการซื้อขนมเถ้าแก่น้อยและทำการแสกรนด์รหัสภายในซองขนมด้วยแอปพลิเคชัน LINE เพื่อรับโค้ด (Code) สำหรับไปกรอกใน Bitkub Next เพื่อรับภาพ NFT โดยผู้ที่ทำการสะสมและได้รับ NFT Power จำนวน 10,000 แต้ม สามารถได้รับสิทธิพิเศษทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับหยิ่นวอร์ คู่จิ้นสุดฮอต หากมีได้รับ NFT Power จำนวน 20,000 แต้ม จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วม Pitching หรือนำเสนอไอเดียธุรกิจกับทาง Bitkub และเถ้าแก่น้อย มูลค่า 1 ล้านบาท เริ่มต้นแจก NFT ประมาณไตรมาส 2-3 ของปี 2564
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Bitkub Chain Official