วันนี้!!ปธ.หอค้าไทยนัดถกภาคบริการ จัดคิวธุรกิจใดพร้อมเปิด ก่อนเสนอรัฐ20เม.ย.นี้
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านโลจิสติกส์และขนส่ง ว่า ในวันที่ 15 เมษายน จะจัดการประชุมทางไกลวิดิโอคอนเฟอเรนซ์(Video Conference) ร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) หอการค้าส่วนกลางและต่างจังหวัด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สมาคมค้าปลีกไทย สมาคมโรงแรม ธุรกิจด้านท่องเที่ยว ธุรกิจภาคบริการ กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มทางการแพทย์ เป็นต้น
เพื่อในแต่ละฝ่ายได้นำเสนอความคืบหน้าของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชนและการดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงข้อเสนอแนะของแต่ละภาคหน่วย ซึ่งจะจัดทำข้อสรุปและนำเสนอต่อที่ประชุมภาครัฐและเอกชนในวันที่ 20 เมษายนนี้
ทั้งนี้ กรอบประเด็นที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุป คือ การกำหนดว่ากลุ่มธุรกิจใดที่จะสามารถเปิดให้บริการได้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบทางธุรกิจนั้นๆโดยดูธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดไปถึงน้อยกว่า รวมถึงหารือปัจจัยสำคัญที่ต้องเปิดให้บริการ เพื่อลดผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจและประชาชน และวิธีการที่ธุรกิจเตรียมพร้อมที่จะให้ความมั่นใจเรื่องการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายกลินท์ กล่าวว่า ขณะนี้ระบบโลจิสติกส์และการขนส่งได้ปรับตัวรับสถานการณ์โควิด-19ได้ดีมากขึ้น เอกชนต่างทำจนสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบโลจิสติกส์ภายในประเทศอย่างดี โดยผลการหารือจะไปรวมกับการระดมความเห็นและข้อเสนอกับคณะทำงานชุดอื่นอีก 4 เรื่องคือ สินเชื่อ การเกษตร ช่วยเหลือเอสเอ็มอี และการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปดำเนินการด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อลดผลกระทบทางธุรกิจ การจ้างงาน และเศรษฐกิจโดยรวม
“ เรามีตุ๊กตาคราวๆไว้บางแล้ว แต่ต้องรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งจากผู้ดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสจากทางสาธารสุข และความพร้อมของภาคธุรกิจนั้นๆด้วย ก่อนจะเสนอว่าธุรกิจใดที่สามารถเปิดให้บริการแล้ว มั่นใจไม่เป็นจุดการแพร่ระบาดของไวรัส ภาคเอกชนต้องการเสนอให้รัฐเห็นว่าอนาคตระยะสั้นและกลาง เฟสแรกควรทำอะไร เฟสต่อไปควรทำอะไร เพื่อให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อน ยังไม่กระทบต่อภาคแรงงาน และเศรษฐกิจประเทศไม่ชะงักยาวนาน “ นายกลินท์ กล่าว