อินโดฯ เร่งกู้กล่องดำเครื่องบินตกทะเล พบชิ้นส่วนเหยื่อเคราะห์ร้ายเพิ่ม
จาการ์ตา, 12 ม.ค. (ซินหัว) -- วันอังคาร (12 ม.ค.) หน่วยกู้ภัยของอินโดนีเซียเปิดเผยว่าทีมนักประดาน้ำกำลังเร่งเคลื่อนย้ายเศษซากเครื่องบินโดยสารโบอิง 737-500 ของสายการบินศรีวิชัย แอร์ (Sriwijaya Air) ซึ่งประสบเหตุพุ่งตกน่านน้ำนอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศ เมื่อวันเสาร์ (9 ม.ค.) พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 ราย ณ บริเวณสองจุดที่ตรวจพบสัญญาณจากกล่องดำ ขณะเดียวกันนักประดาน้ำพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์จำนวนหนึ่ง
พลเรือเอกยายัน ซอฟยัน ผู้บัญชาการกองปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย กล่าวว่าเจ้าหน้าที่พยายามเคลื่อนย้ายเศษซากเครื่องบินออกจากจุดที่ตรวจพบสัญญาณกล่องดำ เพื่อระบุตำแหน่งเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) และเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (FDR)"การแตกกระจายของเครื่องบิน ทำให้กล่องดำถูกปกคลุมด้วยเศษซาก เราจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเศษซากออกจากจุดที่ตรวจพบสัญญาณกล่องดำ จากนั้นจะทดสอบความแรงของสัญญาณ" ซอฟยันกล่าว "เนื่องจากเศษซากเครื่องบินยังคงรบกวนการปล่อยสัญญาณ เราจะเร่งเคลื่อนย้ายเศษซากอีกครั้งจนกว่าสัญญาณจะแรงขึ้น"บากัส ปูรูฮิโต หัวหน้าหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ (SAR) ของอินโดนีเซีย กล่าวว่าระยะห่างของกล่องดำทั้งสองอยู่ระหว่าง 150 -200 เมตรด้านรัสมัน เอ็ม.เอส. ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของหน่วยงานฯ เผยว่านักประดาน้ำได้รวบรวมชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์รวม 74 ถุง ทั้งยังลำเลียงเศษซากเครื่องบินขนาดใหญ่ 24 ชิ้น และถุงบรรจุเศษซากเครื่องบินขนาดเล็ก 16 ใบ ขึ้นจากก้นทะเลแล้ว พร้อมเสริมว่าอินโดนีเซียระดมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 3,600 คน รวมถึงเรือ 54 ลำ เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ 13 ลำ เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยครั้งนี้ขณะเดียวกันพลจัตวารุสดี ฮาร์โตโน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย รายงานว่าทีมพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลสามารถระบุตัวตนหนึ่งในเหยื่อเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ได้แล้วทั้งนี้ เที่ยวบินเอสเจ-182 (SJ-182) ที่ให้บริการโดยสายการบินต้นทุนต่ำอย่างศรีวิชัย แอร์ ประสบเหตุพุ่งตกหลังออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โน-ฮัตตา (Soekarno-Hatta international airport) ในกรุงจาการ์ตา เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองปนตียานักในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกได้เพียงไม่นาน