รีเซต

โคราชยังอ่วม! น้ำท่วมกระทบ 1,500 ครัวเรือน ชุมพวงหนักสุดถนนถูกตัดขาด

โคราชยังอ่วม! น้ำท่วมกระทบ 1,500 ครัวเรือน  ชุมพวงหนักสุดถนนถูกตัดขาด
TNN ช่อง16
22 ตุลาคม 2565 ( 11:15 )
198




ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ หรือ ศบก.จังหวัดนครราชสีมา  ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดนครราชสีมา ว่า อิทธิพลของพายุ “โนรู” และลมมรสุมที่พาดผ่าน ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ทำให้ 22 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาประสบภัยน้ำท่วม โดยมี 128 ตำบล 1 เทศบาลนคร 734 หมู่บ้าน 48 ชุมชน ได้รับปลกระทบ บ้านเรือน 8,132 หลัง วัด 42 แห่ง โรงเรียน 39 แห่ง ถนน 190 สาย โรงสูบน้ำ 1 แห่ง และสถานที่ราชการ 9 แห่ง มีน้ำท่วมขัง ส่วนพื้นที่การเกษตรในเบื้องต้น ประมาณ 285,399 ไร่ ได้รับความเสียหาย และยังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ซึ่งอุทกภัยในครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตด้วย 2 ราย ที่ อ.โนนไทย และ อ.ด่านขุนทด


ล่าสุด วันนี้ (22 ตุลาคม 2565) มี 17 อำเภอที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ได้แก่ อ.เมืองนครราชสีมา หนองบุญมาก  บัวลาย ปักธงชัย สีดา ขามทะเลสอ บัวใหญ่ โชคชัย สูงเนิน คง แก้งสนามนาง โนนไทย ห้วยแถลง จักราช ประทาย โนนสูง และ อ.ด่านขุนทด  ส่วน อ.ลำทะเมนชัย สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ในขณะที่ยังเหลืออีก 4 อำเภอ ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอยู่ ได้แก่ อ.เฉลิมพระเกียรติ พิมาย ชุมพวง แล อ.เมืองยาง รวม 18 ตำบล 123 หมู่บ้าน มีบ้านเรือน 1,552 หลังถูกน้ำท่วม และในบางจุดที่น้ำท่วมสูง มีชาวบ้าน จำนวน 16 ครัวเรือน ต้องอพยพไปพักอาศัยชั่วคราวที่จุดอพยพ 3 แห่ง คือ จุดอพยพ ต.ในเมือง และ ต.กระชอน อ.พิมาย และจุดอพยพ อบต.โนนอุดม อ.เมืองยาง นอกจากนี้ มีวัด 25 แห่ง โรงเรียน 20 แห่ง ถนน 97 สาย และ พื้นที่การเกษตร 80,529 ไร่ ถูกน้ำท่วมสูงได้รับความเสียหาย


ซึ่งในพื้นที่ อ.ชุมพวง มีวิกฤตน้ำท่วมหลายจุด โดยเฉพาะถนนสายหลัก-สายรอง ถูกมวลน้ำเอ่อท่วมถนนหลายสาย และกัดเซาะถนนลาดยางพังเสียหายเป็นทางยาว บางจุดถนนขาดหายไป 1 ช่องจราจร และบางจุดถูกน้ำเซาะจนถนนขาด เช่นถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา อบจ. นม. 17302 หนองจิก - ชุมพวง บริเวณบ้านยาง หมู่ 6 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง ถูกน้ำพัดขาดไม่สามารถสัญจรได้ ทางอำเภอฯ จึงประสานขอความช่วยเหลือไปยัง ศูนย์ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา นำสะพานถอดประกอบ หรือ สะพานเบลี่ย์ ขนาดผิวจราจร 3 เมตร ความยาว 48 เมตร จำนวน 1 ชุด มาติดตั้งชั่วคราว เพื่อเชื่อมเส้นทางบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร แต่ทั้งนี้ ในจุดดังกล่าว แม้ระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีมวลน้ำไหลผ่านจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ฯ จึงนำถุงบิ๊กแบ็คมาวางกั้นบริเวณใต้พื้นถนนในจุดที่ถูกน้ำซัดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเซาะดินสไลด์ จนถนนยุบพังเพิ่มเติม จากนั้น จึงจะประกอบสะพานเบลีย์เชื่อมเส้นทางให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรผ่านชั่วคราวต่อไป







ภาพ ผู้สื่อข่าว นครราชสีมา 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง