แจ้ง ตร.ลูกสาวแรกเกิดหายปริศนา ภรรยาสารภาพ เคยท้องแต่แท้ง กลัวสามีไม่พอใจเลยแต่งเรื่องหลอก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม ร.ต.อ.(หญิง) วราพรรณ ประเสริฐศักดิ์ ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งจาก น.ส.ปิยรัตน์ ผุยบัวค้อ อายุ 37 ปี ชาว ต.หนองแปน อ.มัญจคีรี จ.ขอนแก่น และมาอาศัยที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และนายปัญญา กันเขียว อายุ 29 ปี สามี ว่า น.ส.ปิยรัตน์ได้ตั้งครรภ์และฝากท้องไว้ที่โรงพยาบาลบางละมุง คลอดลูกสาวออกมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 พบว่าเด็กไม่แข็งแรงและได้กินน้ำคร่ำเข้าไป จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อมารักษาตัวที่ห้องไอซียู โดย น.ส.ปิยรัตน์ ได้เห็นลูกสาวเพียง 10 นาทีเท่านั้น ส่วนนายปัญญาช่วงคลอดลูกนั้นไม่สามารถเข้าไปดูแลได้
หลังจากส่งตัวมาโรงพยาบาลชลบุรี ปรากฏว่าได้มีผู้ใช้เบอร์โทรศัพท์ 06-3615-4961 ได้โทรศัพท์แจ้งอาการของลูกสาวตลอดมา จนกระทั่งวันที่ 2 ธันวาคม นัดให้มารับลูกสาวกลับบ้าน นายปัญญาจึงขี่รถจักรยานยนต์จาก อ.บางละมุง และ อ.เมืองชลบุรี ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เพื่อมารับลูกสาว แต่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแจ้งว่าเอกสารยังทำไม่ครบ ขอให้รอไปก่อน จึงได้นอนรอที่โรงพยาบาลชลบุรี และได้มีการติดต่อกันตลอดเวลา แต่ยังมีการอ้างว่าทำเอกสารไม่เสร็จ จนกระทั่งถึงวันที่ 4 ธันวาคม ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ จึงประสานงานกับทางตึกกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลชลบุรี แต่ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้มีการส่งตัวเด็กมารักษาตัวแต่อย่างใด คาดว่าลูกสาวได้หายตัวไปแล้ว จึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามลูกสาวด้วย
หลังจาก พ.ต.ท.ชำนาญ ตรีเนตร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชลบุรี รักษาการแทน ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ทราบข่าว จึงให้ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมนำตัว น.ส.ปิยรัตน์ มาสอบสวนอย่างหนักเพื่อหาข้อเท็จจริง จน น.ส.ปิยรัตน์รับสารภาพว่า ตั้งท้องจริงและได้แท้งลูกไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา เกรงว่าสามีจะไม่พอใจจึงได้แต่งเรื่องขึ้นมา
ทั้งนี้ น.ส.ปิยรัตน์อ้างว่าทางโรงพยาบาลบางละมุงทำคลอดแล้วเด็กหัวใจเต้นแรง จึวนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี และให้เพื่อนโทรศัพท์แจ้งอาการของลูกสาวตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อสามีมารับลูกสาวและไม่พบตัวลูกสาว จนกระทั่งได้มาแจ้งความดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับนายปัญญา สามี เป็นอย่างมากที่ถูกหลอก รวมทั้งแม่ของนายปัญญาที่เดินทางจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อมาเลี้ยงลูกสาว นั่งร้องไห้เสียใจ ที่สูญเสียหลานสาวไปจากการแท้งลูก
พ.ต.ท.ชำนาญกล่าวว่า การกระทำของ น.ส.ปิยรัตน์เป็นความผิดในข้อหาแจ้งความเท็จ มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 1,000 บาท ส่วนนายปัญญาไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าข่ายความผิด อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของครอบครัวและส่วนตัว เมื่อมีปัญหาควรพูดจากัน ไม่ใช่แต่งเรื่องขึ้นมา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น
นอกจากนี้ น.ส.ปิยรัตน์เปิดเผยว่า ตนเองตั้งครรภ์จริง แต่สามีไม่ให้ความสนใจ จึงได้กินเหล้า ทำงานหนัก จนกระทั่งแท้งลูก และกลัวว่าสามีจะไม่พอใจ จึงได้แต่งเรื่องขึ้นมาว่าลูกสาวหายตัวไปจากโรงพยาบาลชลบุรี