กองกำลังผาเมืองเข้มชายแดนสกัดแรงต่างด้าวทะลักเข้าไทย
นอกจากจะวางรั๋วลวดหนามตลอดแนวและเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวณตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาแล้ว กองกำลังผาเมืองยังติดกล้อง CCTV ในจุดสำคัญ เพื่อให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ 24 ชั่วโมง
ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ทางด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่มีเพียงลำน้ำสายและลำน้ำรวก ซึ่งแคบและตื้นเขินเป็นพรมแดนกั้นอยู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จะได้จัดการวางลวดหนามไว้ตลอดแนวชายแดนแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง ยังต้องเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวณให้มากขึ้น เพื่อสกัดการทะลักข้ามตามช่องทางธรรมชาติของแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ที่หลังลักลอบเพื่อกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย หลังมีการผ่อนคลายการป้องกันโควิด-19 จนหลายกิจการสามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้แล้ว
มีรายงานว่า 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดและไฟส่องสว่างตลอดริมแม่น้ำสาย นอกจากนี้ยังจะมีการใช้โดรนติดอินฟราเรด บินตรวจแนวชายแดนในยามค่ำคืนด้วย การดำเนินการดังกล่าวมีรายงานว่าเป็นคำสั่งมาจาก นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีความห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 จากแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถจับกุมต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองได้จำนวนมาก โดยได้เตรียมใช้มาตรการทางกฏหมายอย่างเข้มข้นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้นำพาแรงงานต่างด้าว และนายจ้างที่รับแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านมาตรการกักตัว 14 วันเข้าทำงาน
จากการตรวจสอยข้อมูลเขิงลึกว่าการเข้ามาของแรงงานต่างด้าวมีการทำเป็นขบวนการมีคนในประเทศไทนเป็นผู้นำพาโดยจัดรถจักรยานยนต์แบะรถยนต์คอยรับแรงานต่างด้าวที่เดินข้ามลำน้ำสายซึ่งมีความตื้นเขินสามารถเดินข้ามไปมาได้เพื่อนำไปส่งทำงานตามสถานที่ต่างมีการว่าจ้างส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เชียงรายและตังหวัดทางภาคเหนือตอนบนซึ่งแรงงานต่างด้าวจะเสียค่านำพาหัวละ 3,000 บาท โดยมีผู้นำหมู่บ้านบางคนรู้เห็นเป็นใจ ซึ่วมีรายงานว่าทางอำเภอแม่สายมีการตรวจพบจึงสั่งให้ไล่ออกไปแล้ว 1 คนแต่ทางอำเภอปฎิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว