รีเซต

นักวิทยาศาสตร์ทำนายแสงเหนือบนดาวอังคารสำเร็จ เปิดทางเตือนภัยพายุสุริยะให้กับนักบินอวกาศอนาคต

นักวิทยาศาสตร์ทำนายแสงเหนือบนดาวอังคารสำเร็จ เปิดทางเตือนภัยพายุสุริยะให้กับนักบินอวกาศอนาคต
TNN ช่อง16
16 กันยายน 2568 ( 10:39 )
63

นักวิทยาศาสตร์ เผยความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือบนดาวอังคาร โดยระบุว่านี่เป็นครั้งแรกที่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยใช้ข้อมูลจากยานเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ของนาซาบนดาวอังคาร

เอลีส ค์นุตเซน (Elise Knutsen) นักวิจัยปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยออสโล (University of Oslo), นอร์เวย์ ได้บรรยายผลงานและวิธีการพยากรณ์แสงเหนือบนดาวอังคารในการประชุม Europlanet Science Congress (EPSC–DPS) ที่กรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-12 กันยายนที่ผ่านมา

แม้ดาวอังคารจะถูกขนานนามว่าเป็นดาวเคราะห์สีแดง แต่เมื่อเกิดพายุสุริยะที่รุนแรง ท้องฟ้าของมันสามารถเรืองแสงสีเขียวมรกตได้จากแสงออโรรา ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่ออนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์ชนเข้ากับอะตอมและโมเลกุลในบรรยากาศของดาวเคราะห์ 

สำหรับบนโลกสนามแม่เหล็กช่วยนำอนุภาคไปสู่ขั้วโลก แต่ดาวอังคารสูญเสียสนามแม่เหล็กไปนานแล้ว ทำให้แสงเหนือสามารถปรากฏทั่วทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืน

ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม 2024 ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ของนาซาได้บันทึกภาพแสงเหนือจากพื้นผิวดาวอังคารเป็นครั้งแรก ส่วนรายงานการตรวจจับครั้งที่ 2 ในการประชุม Europlanet Science Congress (EPSC–DPS) ที่ฟินแลนด์ โดยเครื่องมือใหม่ที่ช่วยทำนายช่วงเวลาการเกิดแสงออโรราได้แม่นยำขึ้น

ภาพแสงเหนือบนดาวอังคารที่บันทึกโดยยานสำรวจเพอร์เซเวียแรนซ์ของ NASA เมื่อวันที่ 18 มีนาคม และ 18 พฤษภาคม 2024 ภาพแสงเหนือในเดือนมีนาคมมีความสว่างมากกว่าปกติประมาณสองเท่า ขณะที่ท้องฟ้าในเดือนพฤษภาคมซึ่งมีฝุ่นละอองมากกว่าทำให้ดวงดาวหลายดวงมืดลง เครดิตรูปภาพ: Elise Wright Knutsen และคณะ

นักวิจัยอธิบายว่า การพยากรณ์ออโรราบนดาวอังคารยังต้องอาศัยการลองผิดลองถูก เนื่องจากต้องอิงกับการพ่นมวลโคโรนา (CME) จากดวงอาทิตย์ที่ส่งอนุภาคหลายพันล้านตันสู่ดาวเคราะห์ โดยต้องกำหนดการเฝ้าสังเกตล่วงหน้าราวสามวันเพื่อส่งคำสั่งให้ยานสำรวจถ่ายภาพ

การทดสอบตลอดปี 2023-2024 แม้จะล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทีมงานก็สามารถบันทึกแสงออโรราที่เกิดจากพายุสุริยะที่เคลื่อนตัวรวดเร็วและรุนแรงได้สำเร็จถึง 2 ครั้ง

และความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับบรรยากาศดาวอังคาร แต่ยังอาจช่วยเป็นสัญญาณเตือนภัยสำคัญสำหรับนักบินอวกาศในอนาคต ให้มีเวลาเพียงพอในการหาที่กำบังจากรังสีอันตรายที่มาพร้อมกับพายุสุริยะอีกด้วย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง