รีเซต

"เครื่องบินไร้คนขับ" จากพันธมิตร Google มาแล้ว !!

"เครื่องบินไร้คนขับ" จากพันธมิตร Google มาแล้ว !!
TNN ช่อง16
27 พฤษภาคม 2564 ( 12:24 )
59

ณ ขณะนี้ ระบบรถยนต์ไร้คนขับกำลังได้รับความนิยมมาก ๆ และกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดระบบดังกล่าวก็กำลังเดินทางมาสู่เครื่องบินแล้ว เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพ Merlin Labs จากบอสตันได้ทำการประกาศความร่วมมือกับทาง Dynamic Aviation บริษัทผู้ให้บริการด้านการบิน เพื่อนำซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติบนเครื่องบินไปใช้กับอากาศยานอเนกประสงค์ King Air ทั้งหมด 55 ลำ โดยก่อนหน้านี้ทาง Merlin Labs สามารถระดมทุนเงินได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์จาก Google Ventures และ First Round Capital 


ปัจจุบันทาง Merlin Labs กำลังทดสอบเครื่องบิน King Air เครื่องแรกแบบเงียบ ๆ อยู่ เป้าหมายของ Merlin Labs คือการสร้างนักบินดิจิทัลที่สมบูรณ์ ให้กลายเป็นเครื่องบินไร้คนขับ ที่รองรับได้ทั้งเครื่องบินเล็กหรือใหญ่ เพื่อลดจำนวนลูกเรือบนเครื่องให้น้อยลง ทางบริษัทจึงโฟกัสกับเครื่องบินที่มีอยู่แล้วเป็นหลัก เพื่อให้เครื่องบินทั้งหมดสามารถบินได้ด้วยตัวเองได้ อย่างไรก็ตามทางบริษัทมองว่า การขับเคลื่อนด้วยตัวเองควรอยู่กับตัวเครื่องบิน ไม่ใช่อยู่ที่ศูนย์ภาคพื้นดิน เพราะถ้าเกิดปัญหาด้านสัญญาณ เครื่องบินสามารถตกได้ทันที


Merlin Labs บอกเป้าหมายชัดเจนว่าตัวเองไม่ได้อยากเป็นสายการบิน แต่อยากขายเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเดียว ตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนาตัวระบบเพื่อให้เป็นที่รับรองโดย U.S. Federal Aviation Administration อยู่ และวางแผนจะให้เหล่าสายการบินต่าง ๆ ได้ใช้เป็นหลัก


อนาคตของนักบิน ?

ในอนาคตนักบินจะทำหน้าที่ควบคุมการบินจากทางไกลแทนที่จะขึ้นไปขับมัน และอยู่ในฐานะผู้ควบคุมดูแลตรวจสอบเครื่องบินหลาย 10 ลำบนท้องฟ้าพร้อมกัน โดยงานด้านการสื่อสาร การควบคุม ไปจนถึงการนำทาง จะเป็นหน้าที่ของระบบควบคุมด้วยตัวเองแทน ทางบริษัทบอกว่าการทำเครื่องบินไร้คนขับนั้นค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะบนน่านฟ้าสหรัฐอเมริกา เพราะทุกอย่างบนท้องฟ้าสามารถรับรู้ได้ทั้งหมดด้วยระบบเรดาร์จากบนพื้นดิน ทำให้ตัวเครื่องบินรู้อยู่แล้วว่าเส้นทางบนท้องฟ้าไหนปลอดภัยไม่ปลอดภัย


จริง ๆ การบินแบบอัตโนมัติมีอยู่แล้วในทุกเครื่องบิน ปัจจุบันนักบินใช้ระบบดังกล่าวในการพาเครื่องขึ้นหรือลง แต่อย่างไรก็ดี ระบบอัตโนมัติดังกล่าวเคยถูกมองว่าเป็นระบบที่มีปัญหา ทำให้นักบินเริ่มขาดทักษะในการควบคุม เพราะหันไปพึ่งพาระบบมากจนเกินไป


แหล่งที่มา theverge.com, engadget.com

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง