ส่อวุ่น! นอภ.สามร้อยยอด สั่งกักตัว 30 จนท. หลังเด็กฝึกงานติดโควิด

วันที่ 4 สิงหาคม นายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ว่าการอำเภอพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดไปทำบัตรประชาชนที่ห้องทะเบียน ล่าสุดพบนักศึกษาฝึกงานในห้องปกครองติดเชื้อโควิด-19 จึงแจ้งให้สาธารณสุขอำเภอตรวจหาเชื้อโควิดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่การเงิน รวม 30 คน เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากนั้นสั่งกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน พร้อมงดให้บริการงานเป็นการชั่วคราว

ขณะเดียวกันผู้นำท้องที่ใน ต.ไชยราช และ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อยที่มีรอยต่อติดกับ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ตั้งจุดตรวจเฝ้าระวังเส้นทางสายหลักถนนเพชรเกษมและเส้นทางสำรองเลียบชายทะแลที่เชื่อมต่อกับบ้านมาบอมฤต อ.ปะทิว เพื่อตรวจสอบบุคคลที่เดินเข้าพื้นที่ หลังจากมีคลัสเตอร์ใหญ่แรงงานชาวพม่าติดเชื้อโควิด 19 ติดเชื้อจากการจัดงานสังสรรค์ที่บ้านมาบอมฤตมีผู้ร่วมงาน 200 -300 คน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ด้านหน้าสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ถนนซอยโรงพยาบาล ได้จัดตั้งตู้ปันสุขช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 รอบแรกเมื่อช่วงต้นปี 2563 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ขณะนี้เหลือตู้ปันสุขเพียงแห่งเดียว โดยโรงจำนำได้นำอาหารพร้อมบริโภค อาหารแห้งใส่ตู้ทุกวัน นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแวะเวียนนำสิ่งของเติมสมทบ

นายสาธิต เหมทานนท์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนทั่วไปมีชีวิตที่ยากลำบากมากขึ้น เป็นผลมาจากการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงาน แต่ไม่มีงานทำ จึงไม่มีรายได้ บางรายนั่งรอหลายชั่วโมงเพื่อนำอาหารจากตู้ปันสุขนำไปเลี้ยงครอบครัว แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีจำนวนมากที่เป็นบุคคลหน้าเดิมขาประจำเวียนมารับสิ่งของต่อเนื่องวันละหลายรอบ

“มีบางรายพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดนำกระสอบมาใส่สิ่งของ เช่น ผัก ผลไม้ ที่มีผู้นำมาใส่ตู้ช่วงเวลา 03.00 น. จากนั้นนำขึ้นบรรทุกรถพ่วงข้าง บางกลุ่มเปลี่ยนเวรมานั่งรอสิ่งของหน้าตู้ปันสุขด้านข้าง รพ.ประจวบฯ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เทศกิจช่วยจัดระเบียบเพื่อแบ่งปันสิ่งของให้บุคคลอื่นนำไปประทังชีวิต โดยหยิบออกไปไม่เกินรายละ 2 ชิ้น” นายสาธิต กล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในรอบ 24 ชั่วโมง พบว่ามีประชาชนบางกลุ่มนำรถพ่วงข้างมาจอดรอที่หัวมุมกำแพงห่างจากตู้ปันสุขประมาณ 20 เมตร เมื่อมีผู้นำสิ่งของมาใส่ตู้ ก็จะกรูกันเข้ามาหยิบของในตู้จนหมด บางรายได้หยิบสิ่งของจากมือของผู้ที่นำของมาบริจาคก่อนใส่ตู้ นอกจากนั้นพบว่ามีบางรายใช้รถพ่วงข้างวนเวียนมารับสิ่งของวันละหลายรอบ โดยแต่ละรอบจะเปลี่ยนเสื้อต่างสีไม่ให้เจ้าหน้าที่จำได้ กรณีดังกล่าวทำให้มีกระแสวิจารณ์อย่างหนัก และขอให้เจ้าของตู้ปันสุขมีการจัดระบบดูแลเพื่อมอบสิ่งของให้ทั่วถึง ก่อนที่ชาวบ้านจะหมดศรัทธายุติการนำสิ่งของไปใส่ตู้