ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะลุฟ้า รอบ7ปี ถ่านหินจีนก็กระฉูด โอเปกพลิกได้เปรียบ
ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะลุฟ้า - ซีเอ็นเอ็น รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ว่า เปิดสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งทะลุ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 80.52 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2557
เมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ราคาน้ำมันดิ่งต่ำเตี้ยเหลือ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้การเดินทางหยุดนิ่งทั้งบนฟ้าและบนดิน ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ความต้องการใช้น้ำมันกลับบมา แต่ปริมาณการผลิตน้ำมันไม่ได้เพิ่มตาม จนราคาปั่นสูงขึ้น
ชาวอเมริกันต่างตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ เมื่อราคาน้ำมันเบนซิน พุ่งสูงตามเป็นสถิติที่ 3.27 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เมื่อวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์จากสัปดาห์ก่อน และเกือบจะเพิ่มเป็นสองเท่า จากราคา 1.77 ดอลลาร์ เมื่อเดือนเมษายน 2563
ราคาน้ำมันสูงเว่อร์ขณะนี้มาจากภาวะเงินเฟ้อ จนไปกระทบกับงบประมาณที่จัดสรรให้ครอบครัวชาวอเมริกัน และโชคชะตาทางการเมืองของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
และที่โชคร้ายยังไม่จบคือราคาน้ำมันจะยังสูงไปกว่านี้ได้อีก
ตอนนี้ราคาก๊าซธรรมชาติทั้งในยุโรปและเอเชียต่างก็พุ่งกระฉูดเช่นกัน เนื่องจากโรงไฟฟ้าและโรงงานต่างๆ หันไปใช้พลังงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่ราคาถูกกว่า นั่นคือน้ำมันดิบ
ราคาจะแตะ100ดอลลาร์หรือไม่
ซิตีกรุ๊ป ประเมินว่า ราคาน้ำมันเบรนต์ น่าจะถึงระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสที่สี่ และถึงตอนนั้น ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งไปถึง 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ธนาคารวอลล์สตรีต เชื่อว่า ช่วงหน้าหนาว และการเปิดสวิตช์ของโรงงานแห่งต่างๆ จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งทะลุฟ้า โดยเฉพาะยุโรป หากเป็นฤดูหนาวที่หนาวมาก มีโอกาสจะขาดแคลนแก๊สและน้ำมันภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
แบงก์ออฟอเมริกา เตือนเช่นกันว่า ช่วงฤดูหนาวจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 5 แสนบาร์เนล ดังนั้นราคาน้ำมันเบรนต์อาจแตะ 100 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่ยวดยานต์ในอเมริกาอาจช็อกว่า ราคาแก๊สสูงพอๆ กับน้ำมันดิบที่ตลาดเบรนต์
"เราอาจแค่เพิ่งเจอพายุลูกดเดียวจากเฮอริเคนขนาดมหึมาก็ได้" บทวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุ
ราคาถ่านหินในจีนก็พุ่งสถิติ
ไม่เฉพาะก๊าซธรรมชาติเท่านั้นที่แสดงบทบาทในช่วงนี้ สังเกตได้ว่า ราคาถ่านหินของจีนก็ทำสถิติสูงมากเช่นกัน ระหว่างที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมทางภาคเหนือของจีน จนต้องปิดเหมืองหลายสิบแห่ง
ขณะที่ถ่านหินยังเป็นแหล่งพลังงานหลักในจีน ใช้ทำความร้อน ผลิตกระแสไฟฟ้า ไปจนถึงผลิตเหล็กกล้า ซึ่งตอนนี้ีจีนเผชิญปัญหาขาดแคลนพลังงาน
แพทริก เดอ ฮาน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท แก๊สบัดดี กล่าวว่า ถึงตอนนี้ดูแลราคาแก๊สไม่มีวี่แววจะลดลงได้เลย ตลาดเพิ่งจะเริ่มรับรู้ถึงราคาที่พุ่งพรวด และยังจะพุ่งต่อไป
โอเปกคุมบังเหียน
เมื่อดีมานด์สูง ก็เป็นธรรมดาที่ซัพพลายมักไม่ยอมขยับ
ตอนนี้การผลิตน้ำมันของสหรัฐฟื้นตัวอย่างเนิบนาบจากสถานการณ์โควิด ทั้งที่ราคาพุ่งกระฉูด นั่นเพราะบริษัทผู้ผลิตน้ำมันไม่ต้องการให้ปริมาณน้ำมันล้นตลาดเกิดขึ้นอีก อีกทั้งยังมุ่งที่จะคืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นที่เสียเงินไปมากช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ดังนั้นแม้รัฐบาลสหรัฐจะเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรเร่งเพิ่มปริมาณการผลิต แต่ทางกลุ่มโอเปกกลับขยับทีละนิดๆ ปล่อยให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
แม้โอเปกจะเป็นผู้ผลิตที่เคยใจเสีย แต่ตอนนี้กลับกุมอำนาจในตลาดน้ำมันแล้ว