KLINIQ ลุยสาขารับท่องเที่ยว ดันพอร์ตต่างชาติแตะ 20%

#KLINIQ #ทันหุ้น - KLINIQ มั่นใจครึ่งปีหลัง 2568 สดใส จากลูกค้าเข้าใช้บริการต่อเนื่อง เดินหน้าเปิด 5 สาขาใหม่ ดันลูกค้าต่างชาติแตะ 20% พร้อมลงทุนต่อเนื่องด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และบุคลากร ยกระดับมาตรฐาน ความเชื่อมั่น

นายวีระศักดิ์  สินทรัพย์ไพบูลย์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ คลินิกเวชกรรมด้านผิวหนังความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง และการดูแลป้องกันฟื้นฟูสุขภาพ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อผ่านพ้นไตรมาส 3 บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการจะสะท้อนการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และส่งต่อไปสู่ไตรมาส 4 ที่มักจะมีผู้ใช้บริการมากกว่าไตรมาสอื่นๆ

สำหรับการขยายสาขาในครึ่งปีหลัง KLINIQ เดินหน้าตามแผนงาน โดยไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเปิดสาขาใหม่แล้ว 4 แห่ง ได้แก่ The  KLINIQ 1 สาขา, L.A.B.X 2 สาขา และ L Clinic 1 สาขา

 ขณะที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี  บริษัทเตรียมเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งหมด 5 สาขาใหม่ในครึ่งปีหลัง การขยายสาขาในต่างจังหวัดจะเน้นไปที่แบรนด์ The KLINIQUE และ L.A.B.X ส่วน L Clinic จะยังคงโฟกัสตลาดกรุงเทพฯ เป็นหลัก เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานที่มีกำลังซื้อเติบโตต่อเนื่อง

ขยายฐานต่อยอด¹

นายวีระศักดิ์  กล่าวว่า ปัจจุบัน KLINIQ มี 3 แบรนด์หลักในกลุ่ม Aesthetic Skin ได้แก่ The Clinic เจาะกลุ่มลูกค้า High End, L.A.B.X เน้นคุณภาพเครื่องมือระดับมาตรฐาน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า และ L Clinic ที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนอายุน้อยเพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ตั้งแต่เนิ่นๆ ส่วนฝั่ง Surgery ดำเนินการผ่าน THE KLINIQUE SURGERY CENTER ศูนย์ศัลยกรรมครบวงจรใจกลางสยามสแควร์ ซึ่งยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีแผนเพิ่มจำนวนแพทย์เพื่อรองรับความต้องการในตลาดศัลยกรรมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ในด้านตลาดต่างชาติ ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 15-16% ของฐานลูกค้าทั้งหมด โดยบริษัทตั้งเป้าผลักดันเพิ่มเป็น 20% ในอนาคตอันใกล้ ที่ผ่านมาการเติบโตยังเป็นแบบ Organic แต่หากมีการลงทุนด้านการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มนี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าสามารถเร่งการเติบโตได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ผู้บริหารมองว่าธุรกิจความงามยังคงมีการแข่งขันสูง แต่ไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าเดิม เพียงแต่ผู้เล่นรายเล็กอาจทยอยหายออกจากตลาด

ชูมาตรฐาน-เทคโน

KLINIQ ยังลงทุนต่อเนื่องด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และบุคลากร โดยมีทีมแพทย์และทีมสรรหาเครื่องมือเฉพาะทาง พร้อมทั้งส่งแพทย์เข้าร่วมเวิร์กช็อปและสัมมนาต่างประเทศสม่ำเสมอ เพื่อยกระดับมาตรฐานและอัพเดตความรู้ใหม่ๆ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าหน้าสาขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการและสร้างความประทับใจให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น สำหรับด้านต้นทุนเครื่องมือแพทย์นั้น ในระยะสั้นเงินบาทแข็งยังไม่กระทบต่อธุรกิจ แต่มองว่าในระยะยาว จะกลับเป็นผลดีต่อบริษัทในฐานะผู้นำเข้าเครื่องมือความงาม

นายวีระศักดิ์ ยังระบุว่า ปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนการเติบโต มาจากการที่ลูกค้าเริ่มใช้บริการเร็วขึ้นตั้งแต่อายุน้อย และเมื่ออายุมากขึ้นก็มีความต้องการใช้บริการมากขึ้น ทำให้บริษัทแตกแบรนด์เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลายของลูกค้าได้ตรงจุด นอกจากนี้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและโครงการ “คนละครึ่ง” แม้ไม่ส่งผลโดยตรง แต่ช่วยให้ผู้บริโภคลดค่าใช้จ่ายด้านอื่น และเหลืองบประมาณมาใช้บริการความงามได้มากขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงที่เห็นการใช้จ่ายสูงขึ้น