รีเซต

"สร้างรายได้" ดีกว่า ปลูก"กลอย"ในร่องสวนยาง ทำเงินครึ่งแสนต่อปี | เรื่องดีดีทั่วไทย | 16-12-68

"สร้างรายได้" ดีกว่า ปลูก"กลอย"ในร่องสวนยาง ทำเงินครึ่งแสนต่อปี  | เรื่องดีดีทั่วไทย | 16-12-68
TNN ช่อง16
16 ธันวาคม 2568 ( 14:19 )
20

นี่คือผลผลิตกลอย ที่ปลูกในพื้นที่ร่องสวนยางพาราบนเนื้อที่ 3 ไร่ของชาวสวนยางพารา      ต.ตะปาน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี  นับเป็นเกษตรกรคนแรกของจังหวัดที่นำกลอย มาปลูกในร่องสวนยางพาราจนประสบความสำเร็จ 

นายพิมล เพชรรัตน์ สัย 62 ปี เจ้าของสวน เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการปลูกกลอยว่า ในพื้นที่ตำบลตะปาน อ.พุนพิน มีพื้นที่เกษตรกรรมหลายอย่างซึ่งต้องใช้สารเคมีเป็นตัวปราบศัตรูพืช ฆ่าแมลง จึงคิดต่อว่า พอจะมีพืชชนิดไหนบ้างไหมที่ไม่ต้องใช้สารเคมีในการปราบศัตรูพืช และไม่เคยมีใครทำมาก่อน กระทั่งได้คำตอบว่า ควรปลูกกลอย 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ข้าวเจ้า และพันธุ์ข้าวเหนียว 

จึงตัดสินใจปลูกกลอยตั้งแต่ปี 2559 โดยหาพันธุ์มาจากอำเภอคีรีรัฐนิคมมาปลูกได้ 3 ปี จนถึงปี 2562 กลอยที่ปลูกไว้เพียงไม่กี่สิบหัวก็เริ่มให้ผลผลิต ตนจึงขยายปลูกเต็มพื้นที่ร่องสวนยางพาราบนเนื้อที่ 3 ไร่ ไร่ละ 400 หัว สร้างรายได้ไร่ละไม่น้อยกว่า 5 หมื่นบาทต่อปี 

พร้อมต่อยอดแปรรูปเป็น ข้าวเหนียวกลอย ที่ผู้บริโภคต่างรู้จัก นำไปแกงส้ม แกงคั่ว หรือ นำไปทำเฟรนไฟรช์กลอย หรือนำไปผสมกับยำชนิดต่างๆได้ 

ส่วนตลาดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลอย คาดว่าในปี 2570 วัตถุดิบยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เพราะ ใน 1 ปี ตนผลิตได้เพียง 1 พันกิโลกรัมเท่านั้น จึงต้องหาแหล่งที่มาของวัตถุดิบหรือปลูกเพิ่มเติมอีก 

ส่วนที่มีอยู่ก็แบ่งปันให้ชาวบ้านที่มาขอซื้อ เพื่อนำไปทำอาหารในช่วงเทศกาลต่างๆ ตลอดจนไปนำแจกจ่ายให้ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในชุมชน

ส่วนราคากลอยพร้อมนึ่ง หรือ กลอยสด ขายกิโลกรัมละ 100 บาท หากเป็นกลอยแห้งขายกิโลกรัมละ 300 บาท (กลอยสด 3 กิโลกรัมได้กลอยแห้ง 1 กิโลกรัม) ซึ่งกลอยแห้งเก็บไว้ได้นาน 2-3 ปี // พร้อมทิ้งท้ายว่าอนาคตจะพัฒนาต่อยอดเป็นเส้นหมี่หรือบะหมี่กลอย และตั้งเป้าว่าจะส่งออกตลาดต่างประเทศ  

ใครสนใจ สั่งซื้อติดต่อตามช่องทางบนหน้าจอเลยค่ะ โทร. 096-483-6255 (คุณพิมล เพชรรัตน์) 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง