GABLE ลุ้นQ3พุ่งแรง แบ็กล็อกออลไทม์ไฮ ลุยลงทุนธุรกิจใหม่

#GABLE #ทันหุ้น – GABLE มั่นใจไตรมาส 3/2568 โตแรง รับแบ็กล็อกทะลุ 6.53 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดันรายได้ปีนี้โต 5-15% ต่อเนื่อง พร้อมรักษามาร์จิ้น 19-20% เร่งเข้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชนต่อยอดแบ็กล็อก ย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง หนี้ต่อทุนเพียง 0.05 เท่า โชว์กระแสเงินสดกว่า 900 ล้านบาท รองรับการขยายลงทุนธุรกิจใหม่ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 3/2568 มีโอกาสเติบโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะธุรกิจมีงานในมือ (Backlog) เพิ่มสูงขึ้น นอกเหนือ จากการบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูล ณ ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 กลุ่มบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในระดับ 6,530 ล้านบาท (บางส่วนทยอยรับรู้ปีนี้) และที่เหลือรองรับการรับรู้รายได้ในปีถัดไปและในอนาคต รวมทั้งบริษัทยังมีแนวทางเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ของทั้งภาคเอกชนและอื่นๆ เพิ่มเติม หวังเสริมรายรับให้มากขึ้น
*ปีนี้โตตามเป้า
สำหรับผลประกอบการในปี 2568 บริษัทยังคงเป้าหมายในการสร้างรายได้เติบโต 5-15% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปี 2567 โดยรักษาอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 19-20% ใกล้เคียงปีก่อน พร้อมเป้าหมายรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) ระดับ 40-50%
นอกจากนี้ จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัท ส่งผลให้มีตัวเลขอัตราส่วนที่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.05 เท่า และมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งมากกว่า 900 ล้านบาท ที่พร้อมรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี
*กำไรแกร่งเป้า 3.8 บ.
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น GABLE ให้ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท หลัง GABLE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 76 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 311.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 17.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 19%
ทั้งนี้ กำไรที่เติบโตโดดเด่นนี้ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งลดลง 10.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 213 ล้านบาท ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในไตรมาส 1-4/2567 (ไตรมาส 1/2568 รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างครั้งเดียว) การควบคุมต้นทุนนี้ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ทิศทางรายได้รวมฟื้นตัวช้าๆ เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็น 1.4 พันล้านบาท สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มแอปพลิเคชันทางธุรกิจ (+18.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 75% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 อย่างไรก็ตาม รายได้ลดลง 25.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 2/2567 มีโครงการฮาร์ดแวร์ขนาดใหญ่ที่มีอัตรากำไรต่ำรวมอยู่ด้วย
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างน่าพอใจเป็น 20.4% สอดคล้องกับ ที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากการผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น รายได้จากกลุ่มแอปพลิเคชันธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้นเป็น 7% ของ รายได้รวม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
