22 ก.ย. “วันแรดโลก” เตือนใจสัตว์ใหญ่ใกล้สูญพันธุ์

วันที่ 22 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันอนุรักษ์แรดโลก” (World Rhino Day) ซึ่งริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 โดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF-South Africa) มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้สังคมทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์แรด หนึ่งในสัตว์ขนาดใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในโลก ปัจจุบันทั่วโลกเหลือแรดเพียง 5 สายพันธุ์ ได้แก่
• แรดสุมาตรา (Sumatran rhino)
• แรดชวา (Javan rhino) – เสี่ยงสูญพันธุ์ที่สุด คงเหลือเฉพาะในอุทยานแห่งชาติอูจุงกูลน เกาะชวา อินโดนีเซีย
• แรดดำ (Black rhino)
• แรดขาว (White rhino)
• แรดอินเดีย (Indian rhino)
แรดจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากช้าง ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักได้มากถึง 3,500 กิโลกรัม และสูงกว่า 6 ฟุต แม้สายตาไม่ดีนัก แต่แรดใช้ประสาทการดมกลิ่นและการได้ยินอย่างยอดเยี่ยมในการดำรงชีวิต อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเฉพาะตัว เช่น การกลิ้งหรือคลุกโคลน เพื่อคลายร้อนและป้องกันปรสิต
อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามหลักของแรดมาจากการล่าเพื่อนำนอแรดไปใช้เป็นยาแผนโบราณและความเชื่อด้านสมรรถภาพทางเพศ ทั้งที่ในความจริงแล้ว “นอแรด” ทำมาจากเคราติน (keratin) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับเล็บมือและเส้นผมของมนุษย์ ไม่มีสรรพคุณทางยาตามที่เชื่อกัน
ในประเทศไทย แรดถูกกำหนดให้เป็น “สัตว์ป่าสงวน” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 แม้จะสูญพันธุ์จากผืนป่าธรรมชาติไปแล้ว แต่การเผยแพร่ความรู้และการสร้างความตระหนักในหมู่ประชาชนยังคงมีความสำคัญ เพื่อย้ำให้เห็นถึงคุณค่าของการรักษาสมดุลระบบนิเวศ
โดยปกติแล้ว แรดมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 35–50 ปี ส่วนนอแรดสามารถงอกใหม่ได้หากถูกตัดออกไป เนื่องจากมีองค์ประกอบเหมือนเล็บและ แรดมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศ เช่น การเปิดพื้นที่ป่าให้แสงแดดส่องถึง ช่วยให้พืชพันธุ์อื่นเจริญเติบโต และยังเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศด้วย
นักอนุรักษ์ทั่วโลกเชื่อว่า หากมนุษย์ร่วมกันหยุดการล่าและรักษาที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติไว้ได้ แรดทั้ง 5 สายพันธุ์อาจยังมีอนาคตและดำรงอยู่คู่กับโลกต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
