คลิประทึก! ลมหัวกุด พัดเต็นท์ตลาดปลิว ไฟชอร์ต สัปดาห์เดียวเกิด3ครั้ง
คลิประทึก ลมหัวกุด พัดเต็นท์ตลาดนัดดัง จ.ขอนแก่น ปลิวติดสายไฟฟ้าแรงสูง ชอร์ตไฟลุก พ่อค้าแม่ค้าวิ่งหนีตายอลหม่าน เชื่อไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
วันที่ 27 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่คลิปคลิปเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้โดยแม่ค้าภายในตลาดต้นเพ็ก ตลาดชุมชนขายของป่า ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นภาพนาทีที่ลมพายุหัวกุดพัดเอาเต็นท์ทั้งหลังลอยปลิวขึ้นไปพาดกับสายไฟฟ้าแรงสูง จนเกิดไฟฟ้าชอร์ตและเกิดเป็นประกายไฟขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่มาเลือกจับจ่ายซื้อของในตลาดต้องพากันวิ่งหนีตายอลหม่าน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.15 น.ของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบถาม น.ส.ชลธิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทุกคนกำลังเลือกซื้อเลือกขายอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของป่าที่ชาวบ้านพากันไปหามาได้ตามปกติ แต่จู่ ๆ ได้เกิดลมพายุที่ชาวบ้านเรียกว่า "ลมหัวกุด" พัดมาจากไหนก็ไม่ทราบ พัดหมุนมาคล้ายพายุงวงช้าง ก่อนจะพัดเต็นท์ที่กางไว้ให้ชาวบ้านขายของปลิวขึ้นไปพาดกับสายไฟฟ้าแรงสูง และเกิดเสียงชอร์ตดังสนั่น
น.ส.ชลธิต กล่าวต่อว่า ตนและชาวบ้านคนอื่น ๆ ต้องพากันวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด หลังจากนั้นไม่นานพายุก็สงบลง จึงพากันออกมาสำรวจความเสียหาย ก็พบว่า มีเต็นท์ถูกลมหัวกุดพัดพังเสียหาย 2 หลัง และยังมีรถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายถูกเสาเต็นท์ตกลงมากระแทก
"เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุ แต่หลังจากที่ตลาดแห่งนี้เปิดได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ได้เกิดเหตุลมหัวกุดพัดมาแบบนี้แล้ว 3 ครั้ง ที่น่าแปลกใจคือทุกครั้งที่เกิดเหตุจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 ลักษณะการเกิดเหตุก็จะเป็นแบบเดิม คือ ไม่มีสัญญาณเตือน จู่ ๆ ก็จะมีลมพัดมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งดิฉันและชาวบ้านที่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่เชื่อว่า จะเป็นการส่งสัญญาณเตือนของเจ้าที่เจ้าทางและสัมภเวสีที่สิงสถิตอยู่ในบริเวณนี้ เพราะก่อนที่จะมีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้เป็นตลาด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยบนบานไว้ว่า จะมีการประกอบพิธีทำบุญให้เจ้าที่เจ้าทาง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการ" น.ส.ชลธิต กล่าว
น.ส.ชลธิต กล่าวด้วยว่า อีกทั้งบริเวณตลาดนัดแห่งนี้เมื่อ 20-30 ปีก่อน ผู้เฒ่าผู้แก่เคยเล่าให้ฟังว่า เคยเป็นป่ารกและถนนก็ยังเป็นทางลูกรัง เคยเกิดเหตุคนยิงกันเสียชีวิตแล้วนำศพมาเผานั่งยางที่บริเวณนี้ด้วย เหตุการณ์ที่พายุพัดแบบเดียวกันถึง 3 ครั้ง ชาวบ้านจึงเชื่อว่า ไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ