"ดิก เชนีย์" เจ้าของนโยบาย "สงครามต้านก่อการร้าย" เสียชึวิตในวัย 84 ปี

ดิก เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ออกแบบนโยบาย “สงครามต้านก่อการร้าย” เสียชีวิตลงแล้วในวัย 84 ปี
เชนีย์ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบขาวสมัยประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด เมื่อยุค 1970s และใช้เวลากว่า 10 ปีในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ
ก่อนที่ประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช จะแต่งตั้งเขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างที่เกิดสงครามอ่าวครั้งแรก และภารกิจที่สหรัฐฯ บุกปานามา
จากนั้นในปี 2001 เชนีย์ได้กลายเป็น “รองประธานาธิบดี” ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ผู้ออกแบบนโยบาย “สงครามต้านก่อการร้าย” ล่าตาลีบัน-อัลกออิดะห์
ในห้วงเวลาที่เชนีย์อยู่ในตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ระหว่างที่ผู้ก่อการร้ายได้โจมตีนิวยอร์ก และวอชิงตัน ในขณะที่บุช ในฐานะประมุขแห่งรัฐ เข้าหลบซ่อนในที่ที่ปลอดภัย - แต่เชนีย์ทำงานร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหม โดนัลด์ รัมสเฟลด์ เพื่อเข้าควบคุมการดำเนินนโยบาย และจากนั้นไม่นานกองทัพสหรัฐฯ ก็ถูกส่งไปยังอัฟกานิสถาน เพื่อทำสงครากับ “ตาลีบัน” และตามล่ากลุ่ม “อัลกออิดะห์”
นั่นทำให้เขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญผู้ออกแบบ “สงครามต้านก่อการร้าย” หลังเหตุการณ์ 9/11 และยังเป็นผู้นำพาสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามใน “อิรัก” ที่เป็นบทจารึกในประวัติศาสตร์การทหารของสหรัฐฯ
ผู้บุกเบิก “สงครามอิรัก”
บทบาทหนึ่งของเชนีย์ที่ถูกจารึกไม่มีวันลืม คือการตัดสินใจบุกอิรัก โดยเขาและบุชได้กล่าวอ้างเหตุผลในการบุกอิรัก ว่า ซัดดัม ฮุเซน มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ และเหตุ 9/11 รวมถึงมี “อาวุธทำลายล้างสูง” (weapons of mass destruction - WMD) ไว้ในครอบครอง แต่การบุกของสหรัฐฯ และพันธมิตรในปี 2003 กลับไม่พบหลักฐานรับรองข้อกล่าวหาใด ๆ ก่อนที่จะถูกพิสูจน์ในเวลาต่อมาว่า .. ไม่เป็ความจริง
แต่ในช่วงไม่กี่ปีก่อนเสียชีวิต เชนีย์ ได้กลายเป็นผู้วิจารณ์พรรครีพับลิกันภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างหนักหน่วง
“ในประวัติศาสตร์ 248 ปี ของประเทศเรา ไม่เคยมีใครคนไหนที่เป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อสาธารณรัฐของเราเท่านี้มาก่อน” เชนีย์กล่าวถึงทรัมป์ และเคยประกาศเมื่อปี 2024 ว่า เขาจะโหวตให้กับคามาลา แฮร์ริส มากกว่าทรัมป์
ส่วนลูกสาวของเขา “ลิซ เชนีย์” ก็ตามรอยพ่อเข้าสู่การเมืองสายรีพับลิกัน ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐไวโอมิง รัฐเดียวกับผู้เป็นพ่อขณะดำรงตำแหน่งในสภา แต่เธอก็ถูกสกัดขาจากพรรค หลังจากที่ออกมาวิจารณ์โดนัลด์ ทรัมป์ กรณีการก่อเหตุจลาจลอาคารรัฐสภา 6 มกราคม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
