ผวาโควิดระบาดรอบ 2 เยอรมนีติดเชื้อพุ่งกว่า 3,000 ราย

วันนี้ (29 ก.ค.63) โลธาร์ เวเลอร์ ผู้อำนวยการสถาบันโรแบร์ท ค็อค (Robert Koch Institute) หรือ RKI ซึ่งเป็นหน่วยงานการวิจัยป้องกันและควบคุมโรคของประเทศเยอรมนี แถลงเมื่อวันอังคารว่า เขา “กังวัลอย่างมาก” กับการเพิ่มขึ้นอีกรอบของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ

นายเวเลอร์ ระบุว่า เยอรมนีอยู่ในช่วงกลางของการระบาดที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ชาวเยอรมันกลายเป็น “ผู้ประมาท” ไปแล้ว และเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยและเคารพมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม social distancing และมาตรฐานสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ พุ่ง 3,611 ราย

คำเตือนของผู้อำนวยการ RKI มีขึ้นขณะที่ หลายประเทศในยุโรปกลับมาเชผิญหน้ากับการระบาดซ้ำอีกและปัญหาผู้เดินทางทั่วทวีปในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ซึ่งมีหลายประเทศที่ต้องกักตัว โดยเมื่อวันอังคาร รัฐบาลเยอรมนี เตือนเรื่องการเดินทางไป 3 แคว้นในสเปน คืออารากอน, คาตาโลเนียและแคว้นนาวาร์ ซึ่งมีการระบาดของไวรัสโควิดรอบใหม่และผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคำเตือนมีขึ้นหลังสหราชอาณาจักรประกาศมาตรการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากสเปน อันเป็นการเคลื่อนไหวหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ผู้นำสเปน เรียกว่า “ไร้ความยุติธรรม”

ระหว่างแถลงข่าว นายเวเลอร์ เรียกร้องเป็นครั้งแรกให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน หากไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางกายภาพได้อย่างน้อย 1.5 เมตร ก่อนหน้านี้ มีการเรียกร้องให้สวมหน้ากากอนามัยภายในสถานที่สาธารณะด้วย เยอรมนีต้องหยุดยั้งไวรัส ซึ่งกลับมาระบาด “อย่างรวดเร็วและไร้การควบคุม” อีกครั้ง ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยและการเว้นระยะห่าง

นายเวเลอร์ มองว่า หากทุกคนปฏิบัติตามกฎด้านสุขอนามัยแล้ว ก็สามารถป้องกันการระบาดของไวรัสได้ มันขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนในชาติ เพราะทุกคนยังไม่รู้ว่า ครั้งนี้เป็นการระบาดรอบ 2 หรือไม่ แต่แน่นอนว่า มันอาจเป็นการระบาดรอบ 2

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เยอรมนีประกาศโครงการตรวจหาเชื้อไวรัสฟรี สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งปัจจุบันนี้ ประกอบด้วยบราซิล, ตุรกี และสหรัฐ และเจ้าหน้าที่กล่าวว่า จะต้องอัปเดตสถานการณ์รายวัน

สำหรับเยอรมนี มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศ 206,242 ราย และเสียชีวิต 9,122 ราย