ทองคำไทยขาขึ้นแบบยาวๆ ‘แม่ทองสุก’ ยันมีสภาพคล่องพอซื้อทองได้ แม้จะตึงตัวขึ้นก็ตาม
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ภาพรวมทองคำในขณะนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้น 1 ครั้ง จำนวน 200 บาท ก่อนจะไม่เคลื่อนไหวอีก ส่งผลให้ราคาทองแท่งขายออก อยู่ที่บาท (บาททองคำ) ละ 26,200 บาท รับซื้อ 26,000 บาท
ส่วนทองรูปพรรณ ขายออก 26,700 บาท รับซื้อ 25,529.44 บาท ส่วนทองสปอตอยู่ที่ 1,715 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยราคาทองคำโลกแกว่งตัวในกรอบ 1,710-1,725 เหรียญสหรัฐ ทำให้มีแรงเทขายเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะอย่งยิ่งในช่วงวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนมีความตื่นตระหนักกับกระแสข่าวที่จะมีการปิดร้านทอง เพื่อพักการซื้อขายชั่วคราว ทำให้เกิดความกังวลจนเห็นภาพการนำทองคำออกมาขายจำนวนมาก
โดยสภาพการซท้อขายในช่วงที่ผ่านมา มีมากขึ้นแต่เป็นรายย่อยที่นำมาขายมากกว่า ส่วนรายใหญ่ยังไม่ได้มีมากนัก ทำให้สภาพคล่องของร้านทองทั่วไป แม้จะยอมรับว่าตึงตัวขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับจำเป็นที่จะต้องปิดการซื้อขายชั่วคราว เพื่อชะลอการรับซื้อทองคำคืน และยืนยันว่าไม่ว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นมากเท่าใด ก็พร้อมรับซื้อ เนื่องจากไม่ว่าจะซื้อหรือขายก็มีกำไรทั้งขาเข้าและขาออก
“ตอนนี้ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับซื้อ เพราะมีกำไรทั้ง 2 ขา หากขาดทุนอาจมีการปิดหนี แต่เมื่อไม่ได้ขาดทุน ก็คงไม่จำเป็นต้องปิดชั่วคราว โดยร้านทองแม่ทองสุกยังเป็นผู้นำเข้าและส่งออกรายใหญ่ในตลาดทองคำไทย ที่จะนำสภาพคล่องกลับเข้ามาในระบบ แม้ขณะนี้การส่งออกจะยากแต่ก็ยังทำได้บ้าง ไม่ถึงกับการทำไม่ได้เลย เหมือนครั้งปิดสนามบินในข่วงที่ผ่านมา เนื่องจากแม้จะมีการปิดสนามบิน แต่ก็ยังมีบางสายการบินที่สามารถทำการบินได้ จึงยังมีการส่งออกไปขายต่างประเทศได้อยู่ แต่สภาพคล่องอาจหายไปจากเดิมที่ซื้อขายไป ส่งภายใน 1 วัน ได้รับเงินแล้ว แต่ขณะนี้ต้องรอ 7 วันกว่าจะได้เงิน ร้านทองจึงต้องใช้ระบบบริหารช่วย ทำให้แม้จะตึงตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดร้าน” นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าว
นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลก มีทิศทางเป็นขาขึ้น โดยมีโอกาสเห็นราคาทองปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเท่ากับปี 2554 หรือประมาณ 9 ปีที่ผ่านมา ที่บริเวณ 1,930 เหรียญสหรัฐต่ออนซ์ ขณะนี้ราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,720 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ยังต่างกันประมาณ 200 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่ถามว่าไกลกันมากหรือไม่ ต้องบอกว่าไม่ได้ไกลมากนัก เนื่องจากในช่วง 3 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 200 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทำให้หากแรงสนับสนุนจากปัจจัยเสี่ยงที่ยังไม่คลาย และสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้นที่ปรับผันผวนต่อเนื่อง
ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มีความต้องการซื้อสะสมอยู่ ก็น่าจะมีโอกาสเห็นได้ภายในปีนี้ โดยหากประเมินจากสถิติที่ผ่านมา สถาพตลาดที่ค่อนข้างปกติในปี 2562 ราคาทองคำยังปรับขึ้นมาได้กว่า 21% ทำให้ปีนี้ที่สภาพตลาดอยู่ในภาวะไม่ปกติ ก็มีแรงหนุนโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำปรับขึ้นไม่แตกต่างจากปี 2562 อย่างน้อยก็น่าจะประมาณ 21% เท่ากัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าก็ประมาณ 300 เหรียญสหรัฐ ในส่วนของกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ลงทุนตามแนวโน้ม อย่าฝืนแนวโน้ม โดยขณะนี้แนวขาขึ้นก็เล่นตามขาขึ้น ซึ่งแม้การเข้าลงทุนในขณะนี้ จะมีความเสี่ยงมากกว่าภาวะปกติ แต่ภายใต้ความเสี่ยงแบบนี้ ทองคำก็ยังถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ที่สะสมไว้อย่างไรก็ยังมีโอกาสทำกำไรได้และไม่ขาดทุนแน่นอน