รีเซต

SPRCงัดอาวุธปลายน้ำ ดันปั๊มคาลเท็กซ์เข้าSET

SPRCงัดอาวุธปลายน้ำ ดันปั๊มคาลเท็กซ์เข้าSET
ทันหุ้น
8 ธันวาคม 2565 ( 06:59 )
77

#SPRC #ทันหุ้น - โบรกเกอร์มองเชิงหลัง SPRC ประกาศเข้าลงทุนในปั๊มคาลเท็กซ์ คาดดีลเสร็จมิ.ย. 2567 จับตาขยายเชิงรุกธุรกิจปลายน้ำ มีแววดันเข้าตลาด Spin Off ในระยะยาว เบื้องต้นประเมินดีลนี้สร้างกำไรปีละ 800 ล้านบาท มองธุรกิจสถานีบริการความผันผวนน้อยกว่าธุรกิจโรงกลั่น มีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายราว 0.1-2.7 บาทต่อหุ้น

 

จากกรณีที่ นายโรเบิร์ต โจเซฟ โตบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ SPRC เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติเข้าซื้อหุ้น 100% ของบริษัท เชฟรอน ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จำกัด จาก กลุ่มเชฟรอน เพื่อดำเนินงานด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายของธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ซึ่งรวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ (Caltex) และแบรนด์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลสิ้นกันยายน 2565 มีสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ ทั้งสิ้น 427 แห่งในไทย

 

ขณะเดียวกันยังเข้าลงทุนถือหุ้น บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ในสัดส่วน 2.5% และซื้อหุ้นบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือ Thappline คิดเป็นสัดส่วน 9.91% รวมถึงการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ 2 บริษัท เพื่อซื้อที่ดินทั้งหมด 19แปลงในการประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม  รวมมูลค่าลงทุน 155.8ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5,562.5 ล้านบาท คาดว่าธุรกรรมการซื้อหุ้นนี้จะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2567

 

โดยบริษัทแจ้งผลประโยชน์ที่จะได้คือการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจปิโตรเลียมปลายน้ำ จากปัจจุบันที่ธุรกิจโรงกลั่นมีกลุ่มบริษัท Chevron เป็นฐานลูกค้ารายใหญ่สัดส่วนสูงถึง 43.2% ของรายได้รวม ในปี 2564 โดยจะลดการพึ่งพารายได้จากลูกค้าที่เป็นกลุ่มบริษัท Chevron ลง  นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสของบริษัทในการขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ธุรกิจบริการเกี่ยวกับรถยนต์ และธุรกิจบริการเชิงพาณิชย์

 

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ SPRC เข้าลงทุนในธุรกิจสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ซึ่งคาดว่าจะมีแรงเสริมกำไรที่อาจเข้ามาในครึ่งหลังปี 2567 ราว 300-650 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานกำไรจากธุรกิจสถานีบริการน้ำมันราว 1,000-1,500 ล้านบาทต่อปี หักด้วยดอกเบี้ยจ่ายเงินกู้จากธุรกรรมราว 100-200 ล้านบาทต่อปี ระยะยาวมองว่ากำไรจากธุรกิจสถานีบริการจะมีความผันผวนน้อยกว่าธุรกิจโรงกลั่น และเป็นการเข้าสู่ตลาดสถานีบริการน้ำมันเป็นเบอร์ 6ของตลาดทั้งในด้านของจำนวนสถานีบริการ และปริมาณจำหน่ายน้ำมัน นอกจากนี้อาจเห็นการขยายธุรกิจในเชิงรุกด้านธุรกิจร้านค้า และโอกาสที่จะมีการ Spin Off ซึ่งจากการลงทุนดังกล่าว

 

เบื้องต้นประเมิน Upside ต่อราคาเป้าหมายของปี 2566 ราว 0.1-2.7 บาทต่อหุ้น ซึ่งปัจจุบันฝ่ายวิจัยให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 12.00 บาทต่อหุ้น โดยแนะนำเพียง Neutral เพราะมองว่าราคาหุ้นเต็มมูลค่าสะท้อนถึงการฟื้นตัวของผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ไปมากแล้ว คาดว่ากำไรปกติในงวดไตรมาส 4/2565 จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อนที่ขาดทุน ตามปริมาณใช้น้ำมันในประเทศที่ฟื้น หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ และเปิดประเทศ รวมถึงได้ประโยชน์จากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในไทย คาดค่าการกลั่นจะอยู่ที่่ราว 6.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 10%จากความต้องการใช้ในยุโรปและการทยอยเปิดบินระหว่างประเทศทั่วโลก

 

**คาดหนุนกำไร 0.8 พันลบ.

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองเชิงบวกต่อการลงทุน เพราะจะช่วยให้ SPRC สามารถสร้างการเติบโตไปกับธุรกิจปิโตรเลียมปลายน้ำได้คล่องตัวมากขึ้น เบื้องต้นหากธุรกรรมนี้สำเร็จคาดว่าจะสร้างกำไรในปี 2567 ได้ประมาณ 800 ล้านบาท จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ และจะมีรายได้เงินปันผลจากการถือหุ้นใน Thappline ประมาณ 59 ล้านบาท  มีรายได้จากเงินปันผล BAFS จากการถือหุ้นในสัดส่วน 2.5% ประมาณ 12 ล้านบาท

 

สำหรับผลดำเนินงานของ SPRC ในปี 2565ฝ่ายวิจัยคาดจะอยู่ที่ 9.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% ส่วนในปี 2566 คาดจะมีกำไร 6.4 พันล้านบาท ลดลง 33%ขณะที่ในระยะสั้นมองกำไรไตรมาส 4/2565จะฟื้นตัวจากไตรมาส 3/2565 ตาม

 

การฟื้นตัวของค่าการกลั่นตลาด ซึ่งเป็นผลจากพรีเมียมน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตาม จากระยะเวลาในการทำธุรกรรมที่ค่อนข้างยาวนาน 18 เดือน และยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ฝ่ายวิจัยจึงยังไม่ได้รวมผลกระทบจากดีลนี้เข้าในประมาณการกำไร กลยุทธ์ยังคงแนะนำถือ หุ้น SPRC ให้ราคาเป้าหมายที่ 13.30 บาทต่อหุ้น

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง