จีนชี้ ‘เพโลซี’ เยือนไต้หวัน อาจเป็นแผนของสหรัฐฯ หวังเพิ่มทหารในภูมิภาค
การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สร้างความไม่พอใจให้กับจีน ที่ถือว่าสหรัฐฯ จงใจละเมิดนโยบายจีนเดียว จนจีนปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่ในทะเลบริเวณช่องแคบไต้หวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ระบุว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี อาจเป็นหนึ่งในแผนของสหรัฐฯ ที่ต้องการหาข้ออ้างเพื่อประจำการทหารเพิ่มเติมในภูมิภาคนี้
---จีนตอบโต้ด้วยการซ้อมรบ---
จีนตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของ “แนนซี เพโลซี” ด้วยการซ้อมรบทางทะเลรอบเกาะไต้หวัน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากไม่พอใจอย่างมาก เพราะจีนถือว่า เป็นการจงใจละเมิดนโยบายจีนเดียว ทั้งที่ออกมาคัดค้านอย่างหนักก่อนหน้านี้
ล่าสุด หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี อาจเป็นแผนการส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เพื่อหาข้ออ้างที่จะประจำการทางทหารในภูมิภาคเพิ่มเติม
พร้อมระบุว่า มีสัญญาณต่าง ๆ บ่งชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังพยายามใช้อุบายเก่า ๆ ซ้ำ ๆ นั่นคือการก่อปัญหาก่อน แล้วก็ใช้เป็นข้ออ้างทำตามแผนยุทธศาสตร์ของตน ในทุกแห่งทั่วโลก และว่า บรรดาผู้เล่นสำคัญ ๆ ในภูมิภาคต่างก็คัดค้านการเพิ่มประจำการทางทหารของสหรัฐฯ ในบริเวณใกล้เคียงไต้หวัน
นอกจากนี้ ยังเตือนด้วยว่า ไต้หวันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ แต่เป็นดินแดนของจีน และการไฟเขียวให้เพโลซีเดินทางไปเยือนไต้หวันนั้น ถือว่า สหรัฐฯ ผิดพันธสัญญาที่เคยให้ไว้กับจีน พร้อมระบุว่า การกระทำของจีน มีเหตุผล สอดคล้องกับกฎหมาย มีเป้าหมายที่จะปกป้อง “อธิปไตยอันศักดิ์สิทธิ์” ของตน
ทั้งนี้ ท่าทีของหวัง อี้ มีขึ้นในระหว่างการเยือนบังกลาเทศ
---มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หลัง “เพโลซี” เดินทางไปเยือนไต้หวัน---
- จีนประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทหารและพลเรือนกับสหรัฐฯ รวมถึงการติดต่อระหว่างผู้บัญชาการทหาร และคว่ำบาตรเพโลซีและครอบครัว
- The Straits Times รายงานว่า เรือรบของจีนกับไต้หวัน เล่นแมวกับหนูกันในทะเล เมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม) ก่อนจะถึงกำหนดสิ้นสุดการซ้อมรบทางทะเล 4 วันของจีน เรือรบจากประเทศจีนและไต้หวัน แล่นเข้าใกล้ช่องแคบไต้หวันประมาณ 10 ลำ
- นอกจากจีนจะยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวัน มีรายงานว่า เรือจีนบางลำได้ข้ามเส้นมัธยฐาน ซึ่งเป็นกันชนที่แบ่งเขตไต้หวันกับจีนอย่างไม่เป็นทางการ
- กระทรวงกลาโหมของไต้หวันระบุว่า เรือรบ เครื่องบิน และโดรน ของกองทัพจีนหลายลำกำลังจำลองการโจมตีเกาะไต้หวันและกองทัพเรือของไต้หวัน พร้อมระบุว่า ตรวจพบเรือรบจีน 14 ลำและเครื่องบินจีน 66 ลำในและรอบ ๆ ช่องแคบไต้หวัน
- The Straits Times สื่อสิงคโปร์รายงานวันนี้ว่า ยังไม่ชัดเจนว่าจีนยุติการฝึกซ้อมในวันอาทิตย์ (7 สิงหาคม) ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
นักวิเคราะห์คนหนึ่ง ระบุผ่านสถานีโทรทัศน์ทางการของจีนว่า กองทัพจีนจะดำเนินการซ้อมรบ ตามปกติทางฝั่งไต้หวัน และระบุว่า “งานประวัติศาสตร์” ใน “การรวมชาติ” ของจีนอาจเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายแสดงต่างก็ความยับยั้งชั่งใจ และชี้ว่าการซ้อมรบดังกล่าว เป็นการเล่นแมวกับหนูในทะเล
- ไต้หวันเผยว่า ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบประจำฝั่งและขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ Patriot ต่างก็อยู่ในโหมดเตรียมพร้อม
อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีการประกาศจากจีนว่า การฝึกซ้อมสิ้นสุดลงหรือไม่ และไต้หวันกล่าวว่า ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าจีนได้หยุดการฝึกตามกำหนดหรือไม่
แต่กระทรวงคมนาคมของไต้หวันระบุว่า ค่อย ๆ ยกเลิกข้อจำกัดในเที่ยวบินผ่านน่านฟ้าของตนแล้ว และการแจ้งเตือนสำหรับการซ้อมรบไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป และไต้หวันจะยังมีเที่ยวบินตรงออกจากพื้นที่ซ้อมรบนอกชายฝั่งตะวันออกจนถึงเช้าวันที่ 8 สิงหาคม
--- จีนกล่าวหาสหรัฐฯ ประมาทเลินเล่อ และสร้างวิกฤตครั้งใหญ่---
ด้านกองทัพจีนระบุว่า การซ้อมรบร่วมทางทะเลและทางอากาศ ทางเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกของไต้หวัน มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการโจมตีทางบกและการโจมตีทางทะเล
ขณะที่สหรัฐฯ เรียกการฝึกหัดดังกล่าว ว่าเป็นการยกระดับความพยายามของจีนในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่อย่างมีนัยสำคัญ
โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า พวกเขายั่วยุ ขาดความรับผิดชอบ และเพิ่มความเสี่ยงของการคำนวณผิดพลาด และขัดแย้งกับเป้าหมายอันยาวนานของสหรัฐฯ ในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน
จีนเตือนสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำการโดยประมาทเลินเล่อ และสร้างวิกฤตครั้งใหญ่ สำนักข่าว Xinhua วิจารณ์ว่า เพโลซีได้แสดงความสามารถทางการเมืองขึ้น เพื่อประโยชน์ส่วนตน ด้วยการยืนกรานไปเยือนไต้หวัน โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หรือสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน
ด้านเพโลซี แถลงที่ญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ (5 สิงหาคม) ที่ผ่านมาว่า การเดินทางเยือนเอเชียของเธอไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ในไต้หวันหรือภูมิภาค
จีนชี้ว่า ความสัมพันธ์กับไต้หวันเป็นเรื่องภายใน และขอสงวนสิทธิ์ในการนำไต้หวันกลับมาสู่ภายใต้การควบคุมของตน หากจำเป็น ขณะที่ไต้หวันปฏิเสธคำกล่าวอ้างของจีน โดยระบุว่า มีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจอนาคตของพวกเขาได้
กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ประณามการซ้อมรบที่ “ก้าวร้าวและยั่วยุ” ของจีน และเรียกร้องให้จีน “หยุดพฤติกรรมที่เพิ่มความตึงเครียดซึ่งเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคและโลกทันที”
นายกรัฐมนตรีซู เซิง-ชาง ของไต้หวัน ระบุเมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม) ว่า เราจะไม่มีวันยอมจำนนต่อแรงกดดัน เรารักษาเสรีภาพและประชาธิปไตย และเชื่อว่าชาวไต้หวันไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่กลั่นแกล้งของจีนโดยใช้กำลังและขู่เข็ญที่หน้าประตูของเรา
————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters