รีเซต

ASW ยึดหัวหาดภูเก็ต บุก9โครงการใหม่เสริมแกร่ง

ASW ยึดหัวหาดภูเก็ต  บุก9โครงการใหม่เสริมแกร่ง
ทันหุ้น
16 กรกฎาคม 2566 ( 19:33 )
123
ASW ยึดหัวหาดภูเก็ต  บุก9โครงการใหม่เสริมแกร่ง

ASW กางแผนรุกตลาดอสังหาภูเก็ต รับการท่องเที่ยวฟื้นตัว หลังเข้าซื้อหุ้น TITLE เสริมแกร่ง ลุยเปิดโครงการ 9 ใหม่ มูลค่า 14,050ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าระดับราคา 4-10 ล้านบาท รวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ดันรายได้รวมปีนี้แตะหมื่นล้านบาท ตามเป้า

 

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ล่าสุด แอสเซทไวส์ ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเป็น 1 ใน 2 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ใน จ.ภูเก็ต ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยแอสเซทไวส์ จะถือหุ้น 57% ผ่านบริษัทย่อยของแอสเซทไวส์ โดยถือเป็น Good Timing (เวลาที่ดี) Good Deal (ข้อตกลงที่ดี) และ Good Company (บริษัทที่ดี) ที่จะหนุนให้การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายตามแผนที่วางไว้

 

*จับมือพันธมิตรโต

โดยบริษัทเห็นถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดหมายการพักอาศัยระดับโลก บริษัทจึงตัดสินใจขยายธุรกิจไปสู่จังหวัดภูเก็ต โดยจับมือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดภูเก็ตเป็นอย่างดี และร่วมผลักดันตลาดอสังหาภูเก็ตให้เติบโต ผ่านตลาดต่างชาติ เพราะสถานการณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตดีขึ้น

 

ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ชดเชยความต้องการที่ชะลอตัวลงช่วงโควิด 3 ปีที่ผ่านมา โดย TITLE สามารถเปิดขายและโอนทุกโครงการได้ทั้งหมด 100%อย่างรวดเร็ว ขณะที่โครงการล่าสุดที่ได้เปิดขายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 อย่างโครงการ THE TITLE HALO 1 NAIYANG สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 79 % คาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกปี 2567

 

ทั้งนี้ สถานการณ์โอนกรรมสิทธิ์ ห้องชุดต่างชาติในตลาดภูเก็ต อยู่อันดับที่สามจำนวน 637 ยูนิต เพิ่มขึ้น 87%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมมูลค่าราว 3,001ล้านบาท ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของ ASW ในครั้งนี้จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และพันธมิตร รวมถึงนักลงทุน เนื่องจากทั้ง 2บริษัทมีความแข็งแกร่งในด้านการทำธุรกิจ มีส่วนช่วยในการผลักดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตให้มีการเติบโต พร้อมกับต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และเป็นการเพิ่มช่องทางการรับรู้รายได้ของบริษัทอีกด้วย

 

*เปิด 9 โครงการใหม่

โดยหลังจากนี้มีแผนพัฒนาโครงการจำนวน 9 ซึ่งจะทยอยเปิดตั้งแต่ปี 2566-2569 ระดับราคา 4-10 ล้านบาท โดยเป็นโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 80ไร่ ใน 3 ทำเลศักยภาพของภูเก็ต ได้แก่ หาดในยาง ทั้งหมด 5 โครงการ, หาดบางเทา 3 โครงการ และหาดราไวย์ 1 โครงการ ประกอบกับ จ.ภูเก็ต อยู่ในระหว่างการขยายสนามบินนานาชาติ เฟสที่ 2และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้คาดการณ์ว่า จะเป็นปัจจัยเสริมให้การพัฒนาโครงการดังกล่าว สามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาทที่วางไว้ ใน 3 ปี (2567 - 2569)

 

นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนา โครงการพูลวิลล่าระดับลักชัวรี่ จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ผนึกกำลังกับบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการพูลวิลล่าระดับลักชัวรี่ในภูเก็ต เพื่อพัฒนาโครงการ BOTANICA Grand Avenue (โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว) ให้เป็นพูลวิลล่าระดับลักชัวรี่ที่ดีที่สุดบนหาดบางเทา

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2566 ของบริษัทเอง ก็ยังคงขับเคลื่อนแผนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมาย โดยได้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 11,000 ล้านบาท และเพื่อเป็นการขยายพอร์ตบ้านในแนวราบให้มีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้น และบริษัทเตรียมเปิดโครงการ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง