รีเซต

กลุ่มยานยนต์ฯ ห่วงผลิตรถทั่วโลกสูญ2.8ล้านคัน หากสงครามยืดเยื้อชิปขาดแคลนหนัก

กลุ่มยานยนต์ฯ ห่วงผลิตรถทั่วโลกสูญ2.8ล้านคัน หากสงครามยืดเยื้อชิปขาดแคลนหนัก
มติชน
25 เมษายน 2565 ( 19:22 )
63
กลุ่มยานยนต์ฯ ห่วงผลิตรถทั่วโลกสูญ2.8ล้านคัน หากสงครามยืดเยื้อชิปขาดแคลนหนัก

กลุ่มอุตยานยนต์ ส.อ.ท. เผยตลาดรถยนต์ในประเทศกระเตื้องจากมอเตอร์โชว์-รัฐคลายล็อกเศรษฐกิจฟื้น แต่ต้องจับตาสงครามยืดเยื้อ โรงงานชิ้นส่วนหยุดผลิตชิป หวั่นกระทบยอดผลิตรถทั่วโลกหาย 2.7-2.8 ล้านคัน

 

 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนมีนาคม 2565 มีทั้งสิ้น 172,671 คัน เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.25% ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมีนาคม อยู่ที่ 87,245 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% เนื่องจากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์มากขึ้น เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการใช้เงินและส่วนลด ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กำลังซื้อดีขึ้น ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมีนาคม อยู่ที่ 93,840 คัน ลดลง 10.21% จากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงผลิตและส่งออกลดลงในตลาดรถยนต์นั่ง อาทิ เอเชีย ออสเตรเลีย และยุโรป ดังนั้นต้องติดตามการสู้รบในยูเครนอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะอาจทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น

 

“ตลาดในประเทศขณะนี้ประชาชนกังวลการระบาดของโควิด-19 ที่ยอดติดเชื้อและเสียชีวิตยังสูง ราคาสินค้า ราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงานสูงขึ้นจากสงคราม และปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ ขณะนี้ต้องติดตามสถานการณ์สงครามอย่างใกล้ชิดต่อไปว่ายืดเยื้อแค่ไหน เพราะกระทบทั้งยอดขายในประเทศและยอดส่งออก ล่าสุดเดือนมีนาคมเริ่มมีบางบริษัทในรัสเซียและยูเครนหยุดผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แล้ว หากสงครามยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกหายไป 2.7-2.8 ล้านตัน”นายสุรพงษ์กล่าว

 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยอดรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มีนาคม 2565 มีจำนวน 480,078 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.06% ขณะที่ยอดขาย 231,189 คัน เพิ่มขึ้น 19.09% ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 243,124 คัน ลดลง 5.81% แต่มีมูลค่าการส่งออก 144,165.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.86%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง