รีเซต

เวิร์กช็อปคับคั่ง สอนทำ 'ขนมถ้วยฟู-ช็อคบอล-ซีอิ๊ว' ผสมกัญชา ในมหกรรม 360 องศา เพื่อปชช.

เวิร์กช็อปคับคั่ง สอนทำ 'ขนมถ้วยฟู-ช็อคบอล-ซีอิ๊ว' ผสมกัญชา ในมหกรรม 360 องศา เพื่อปชช.
มติชน
6 มีนาคม 2564 ( 16:47 )
68
เวิร์กช็อปคับคั่ง สอนทำ 'ขนมถ้วยฟู-ช็อคบอล-ซีอิ๊ว' ผสมกัญชา ในมหกรรม 360 องศา เพื่อปชช.

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในงาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ (สสจ.) และ สถาบันการศึกษา ตลอดจนภาคเอกชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคมนี้ เพื่อขานรับนโยบายปลดล็อกกัญชา-กัญชง ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตลอดจนใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ มีกิจกรรม “เวิร์กช็อป กัญชากัญชง” ถึง 4 กิจกรรม โดย สถาบันกัญชาทางการแพทย์ และ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

 

โดยเวลา 10.00 น. ผู้ร่วมกิจกรรม ได้ทดลองทำ “ขนมถ้วยฟูกัญชา” มีวิทยากรบรรยาย ตั้งแต่การใช้กัญชาในการทำอาหาร ก่อนบอกส่วนประกอบของขนม ซึ่งต้องใช้ 1.แป้งข้าวเจ้า 210 กรัม, 2.น้ำตาลทราย 170 กรัม, 3.ผงฟู 2 ช้อนชา, 4.ยีสต์ ครึ่งช้อนชา, 5.ข้าวหอมมะลินึ่งสุก 80 กรัม, 6.น้ำกัญชาปั่นสด 335 กรัม, 7.กลิ่นมะลิ ครึ่งช้อนชา, 8.ฝักทอง และมันม่วง 180 กรัม, 9.กะทิ 200 กรัม, 10.เกลือ ครึ่งช้อนชา และ 11.ไข่ไก่ 1 ฟอง

 

ผู้ร่วมกิจกรรม ได้เริ่มต้นด้วยการปั่นข้าวสุกกับน้ำกัญชาในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นนำส่วนผสมอื่นๆ มาผสมให้เข้ากัน แล้วพักไว้ 25 นาที

 

จากนั้น หยอดส่วนผสมลงแม่พิมพ์ และนำไปนึ่งในน้ำที่เดือดจัดเป็นเวลา 20 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

ต่อมา เวลา 12.30 น. ผู้ร่วมกิจกรรมอีกชุดหนึ่ง จำนวน 30 คน ทดลองทำ “ซีอิ๊วหมักใบกัญชา” ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนผสมได้แก่ 1.ถั่วเหลืองต้มสุก 100 กรัม, 2.ผลไม้รสเปรี้ยว 600 กรัม, 3.ใบหม่อน ใบไชยา หรือใบกัญชา 100 กรัม, 4.น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม, 5.เกลือเม็ด 100 กรัม

 

โดยมีวิธีการทำ ดังนี้

1. นึ่งหรือลวกโหลที่จะใช้เพื่อฆ่าเชื้อ และนำไปพักไว้ให้เย็น

2. ต้มถั่วเหลืองให้สุกและพักไว้จนเย็น จากนั้นนำไปใส่ไว้ด้านล่างสุดของโหล

3.หั่นสับปะรดมะเฟืองหรือผลไม้รสเปรี้ยว ให้เป็นชิ้นเล็ก แล้วใส่ทับลงบนถั่วเหลือง

4. ฉีกหรือหั่นใบหม่อน ใบไชยา หรือใบกัญชาทับลงไป ทางนี้วิทยากรแนะนำว่า อาจจะใช้ใบพืชหลายชนิดรวมกันก็ได้ ให้มีปริมาณ 100 กรัม

5. โรยน้ำตาลทรายแดงให้ทำชั้นบนของใบพืชทั้งหมด

6. โรยเกลือเม็ดให้ทั่ว และเกลี่ยให้เสมอกัน โดยระวังอย่าให้ใบของพืชโผล่ขึ้นมา

7. เก็บโหลหมักไว้นาน 3 เดือน จึงเปิดมาชิมได้

 

ทั้งนี้ วิทยากรแนะนำเคล็ดลับว่า หากหมักครบ 6 เดือนจะใช้ปรุงอาหารได้ หมักครบ 1 ปีรสชาติจะดีมาก

จากนั้น เวลา 14.00 น. ผู้ร่วมกิจกรรม 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มละ 6 ท่าน เริ่มจากขยี้ขนมปัง 1 แถว ทำ “ช็อคบอลกัญชา” ส่วนประกอบได้แก่ 1.ขนมปัง 1 แถว (500 กรัม), 2.ช็อคโกแลตละลาย 375 กรัม, 3.เนยละลาย 1 ถ้วย (150 กรัม), 4.กัญชาผงบดละเอียด 6.8 กรัม

 

โดย วิทยากรอธิบายวิธีการทำทีละขั้นตอน เริ่มจาก

1.ฉีกขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ ยิ่งละเอียดมากจะผสมง่ายขึ้น

2.ใส่ช็อคโกแลตและเนยละลายลงไปทีละน้อย ผสมให้เข้ากัน

3.ค่อยๆ โรยกัญชาลงไป ผสมให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อน พอประมาณ สลับกับส่วนผสมข้อ 2

4.ตกแต่งด้วยท็อปปิ้งช็อคโกแลต หรือไวท์ช็อคโกแลตผสมกัญชาผง

 

นอกจากนี้ วิทยากรยังเปิดเผยด้วยว่า สูตรช็อคบอลนี้สามารถใช้ขนมปังแห้งได้ โดยจะต้องเพิ่มส่วนผสมที่เป็นน้ำเพิ่มขึ้น เช่น นมสด และเนยละลายเพิ่มขึ้นกว่าการใช้ขนมปังแบบปกติ ทั้งนี้ การทําช็อคบอล รสชาติือยู่ที่คุณภาพของช็อคโกแลต หากเลือกใช้ ช็อคโกแลตแบบคอมพาวด์ จะรสไม่เข้ม ถ้าชอบรสเข้ม ให้เลือกใช้ ดาร์กช็อกโกแลต ในอัตรา ส่วน 1 : 2 หรือ 1 : 3 ตามความชอบ

 

นายพิชัย ผ่านศร อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่บูธกิจกรรมเวิร์กช็อป กล่าวว่า กิจกรรมเวิร์กช็อปวันนี้ คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และบอกด้วยว่าจะนำไปต่อยอด เป็นเมนูอาหารอื่นๆ โดยอยากเรียนรู้มากขึ้นว่า ระหว่างกัญชง กับ กัญชา มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

 

สำหรับหลักสูตรที่เอามาสอนในวันนี้ มีทั้งส่วนผสมของกัญชาและกัญชง เรามีวิทยากรให้ความรู้จากสถาบันทางการแพทย์ และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในการทำอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชงโดยตรง ซึ่งเป็นอาหารได้ทั้งคาว และหวาน อาหารคาว ต้องใช้ส่วนผสมของกัญชง หรือกัญชา ส่วนของหวาน ต้องใช้ส่วนผสมจากใบแห้ง หรือ ใบอ่อน

 

โดย คนที่มาเรียนจะเป็นคนที่จองล่วงหน้าไว้ 30 ท่านแรกเมื่อ 30 ท่านแรกยังไม่มาร่วมเวิร์กช็อป ก็จะให้รายชื่อสำรองได้มาเรียนรู้แทน ซึ่งทุกคอร์สได้รับการรับรองหลักสูตรจากองค์การอาหารและยา มีคิวอาร์โค้ดให้คนที่มาร่วมงานได้สแกนเพื่อรู้อัตราส่วนการใช้กันชงกับกัญชาอย่างพอเหมาะในการผสมกับอาหารคาวและหวาน โดยวิทยากรจะบรรยายอัตราส่วนก่อนทุกครั้ง” นายพิชัยกล่าว

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก บางส่วนที่ลงทะเบียนไม่ทันก็ได้มาร่วมยืนฟังการบรรยายวิธีการทำไปพร้อมๆ กันด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเรื่องมานวดกัญ โดย ดร.สมศักดิ์ นวลแก้ว คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, หมอแวสะมิง แวหมะ รองคณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต ซึ่งทุกโปรแกรมสามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพก่อเกิดรายได้

 

สำหรับงาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” จะมีขึ้นถึงวันที่ 7 มีนาคมนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ฟรี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง