รีเซต

MILLดีมานด์รถไฟมาเต็ม คุมบริหารสเปรดเหล็กดี

MILLดีมานด์รถไฟมาเต็ม คุมบริหารสเปรดเหล็กดี
ทันหุ้น
11 พฤษภาคม 2565 ( 07:11 )
96
MILLดีมานด์รถไฟมาเต็ม คุมบริหารสเปรดเหล็กดี

#MILL #ทันหุ้น - MILL ชี้ดีมานด์เหล็กยังโตดี งานรถไฟใช้เหล็กเพียบ ส่วนราคาเหล็กพุ่งชี้มีวัตถุดิบในประเทศบริหารจัดการได้ ยังรักษาส่วนต่างราคาได้ดี เตรียมรายงานงบไตรมาส 1 พรุ่งนี้ ปีนี้เป้าหรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ผลิตเหล็กเพิ่มแตะ 9 แสนตัน จ่อยื่นโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชี้รองรับได้ถึง 20 เมกะวัตต์

 

นายประวิทย์  หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า บริษัทจะรายงานผลประกอบการประกอบการประจำไตรมาส 1/2565 ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นี้ โดยแนวโน้มธุรกิจยังดีต่อเนื่อง ความต้องการเหล็กยังเพิ่มขึ้น ตามโครงการก่อสร้างจากทางภาครัฐที่ออกมาล้วนใช้เหล็กจำนวนมาก อาทิงาน รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งกลุ่มรถไฟฟ้าจะต้องใช้เหล็กเป็นจำนวนมาก

 

ส่วนงานของภาคเอกชนอาจจะยังไม่สูงเมื่อเทียบกับงานของภาครัฐ ขณะที่สถานการณ์ราคาเหล็กยังทรงตัวได้ในระดับสูง จากหลายปัจจัยประกอบทั้งราคาพลังงาน สถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้นของรัสเซียและยูเครน การแพร่ระบาดของโควิดในบางประเทศที่ยังรุนแรงอย่างในจีน ดังนั้นบริษัทจึงต้องมีการบริหารจัดการเรื่องของราคาต้นทุนเหล็กด้วย ปัจจุบันยังรักษาต่าง (Spread) ราคาเหล็กเส้น และเศษเหล็กอยู่ในระดับที่ดี

 

*ดีมานด์เหล็กยังดี

 

“ตอนนี้ในส่วนของความต้องการเหล็กก็ยังดีอยู่ งานของภาครัฐยังเดินหน้า แต่งานเอกชนอาจจะยังไม่สูงเท่า ราคาเหล็กก็อาจจะยังต้องมีการบริการจัดการ แม้ว่าราคาจะสูงขึ้น แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทมีต้นทุนสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงต้องมาบริหารจัดการในเรื่องต้นทุนด้วย บริษัทนั้นมีวัตถุดิบในประเทศประมาณ 60-70% ซึ่งราคาวัตถุดิบในประเทศ และก็ยังรักษา Spread ได้ระดับที่ดี ทำให้ปีนี้ภาพรวมบริษัทยังเชื่อว่าเป็นไปตามแผน” นายประวิทย์ กล่าว

 

นายประวิทย์ ระบุว่า ปีนี้ยังคงเป้าหมายรายได้ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเดินหน้าผลักดันยอดขายเหล็กก่อสร้าง พร้อมกับการขายเหล็กที่มีมาร์จิ้นสูงสร้างมูลค่าเพิ่ม ประเมินอีบิทดาปีนี้จะอยู่ที่ 1.24 พันล้านบาท โดยการผลิตเหล็กอาจจะทำได้ใกล้เคียงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 9 แสนตัน มากกว่าปีก่อนที่ประมาณ 6 แสนตัน

 

อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน กลุ่มบริษัทมีกลยุทธ์ที่จะขยายไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อีกทั้งขยายช่องทางการตลาด โดยผลักดันยอดขายไปสู่ดีลเลอร์ในภูมิภาคต่างๆของไทย และเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากยิ่งขึ้น อาทิ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยการให้บริการตัด, ดัด และขึ้นรูป (CUT &BEND) ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างให้แก่ลูกค้าได้

 

*ลุยไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม

 

พร้อมกันนี้บริษัทยังเดินหน้าในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและเป็นเมกะเทรนด์ด้วยแนวคิด BEYOND STEEL ทั้งธุรกิจบริหารจัดการขยะ ผ่าน บริษัท ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน จำกัด ดำเนินธุรกิจรับรีไซเคิลซากรถยนต์เก่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าซากรถจากต่างประเทศเข้ามารีไซเคิล เดือนละประมาณ 3 หมื่นคัน หรือประมาณ 1.5 หมื่นตันต่อเดือน และยังเตรียมความพร้อมที่จะยื่นขายไฟฟ้าประเภทโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมให้แก่ภาครัฐ หากมีการเปิดรับซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งบริษัทมีศักยภาพ และมีความพร้อมด้านวัตถุดิบ โดยปัจจุบันมีความสามารถในการรองรับการผลิตได้ราว 20 เมกะวัตต์ จะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าประเภท VSPP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง