รีเซต

"คลิปหลุด" หุ้นไทยหล่น "การเมือง" เสี่ยงสูง โบรกฯแนะกำเงินสด หมุนเงินเข้าหุ้น Defensive

"คลิปหลุด" หุ้นไทยหล่น "การเมือง" เสี่ยงสูง โบรกฯแนะกำเงินสด หมุนเงินเข้าหุ้น Defensive
TNN ช่อง16
19 มิถุนายน 2568 ( 10:16 )
31

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า การเมืองไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤติที่อาจนำไปสู่การยุบสภา จาก 2 เหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ 1) การปรับคณะรัฐมนตรี โดยจะเรียกคืนตำแหน่ง รมว.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย นำไปสู่การถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล 2) ประเด็นคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.68 

โดยบทสนทนาแสดงถึงความไม่เป็นเอกภาพระหว่างรัฐบาลกับกองทัพไทย การแทนตัวเองในฐานะหลานและแสดงความนับถือต่ออีกฝ่ายในฐานะลุง รวมถึงการรับปากจะดำเนินการตามที่สมเด็จฮุนเซนร้องขอ คลิปดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าการวางตัวไม่เหมาะสมต่อสถานะผู้นำประเทศ และมีเสียงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา

เราประเมินฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ดังนี้ 1) เปลี่ยนนายกฯ เป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยเพื่อไทยและภูมิใจไทยยังคงร่วมรัฐบาล โอกาส 40% 2) ยุบสภา โอกาส 30% โดยเฉพาะหากพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมใจกันถอนตัว 3) เพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ โอกาส 20% นายกฯ อาจพยายามบริหารต่อ แต่จะเผชิญแรงต้านและความเสี่ยงต่อการฟ้องร้องถอดถอน อีกทั้งการเปลี่ยนนายกฯ อาจไม่ได้รับเสียงรับรองจากรัฐสภา (ส.ส. + ส.ว.) หรือ 4) สลับขั้ว (พรรคประชาชน + ภูมิใจไทย) โอกาส 10% พรรคประชาชนอาจเข้าร่วมรัฐบาลเฉพาะกิจ 6–12 เดือน เพื่อให้กลไกงบประมาณไม่สะดุด และเตรียมเลือกตั้ง ไม่ว่าผลจะออกทางไหน ก็ดูไม่ค่อยดี

ทั้งฉากทัศน์ที่ 1, 3 และ 4 แม้สามารถแก้วิกฤติการเมืองระยะสั้นได้ แต่จะเจอข้อจำกัดในการผลักดันนโยบาย ส่วนฉากทัศน์ที่ 2 (ยุบสภา) จะทำให้รัฐบาลเข้าสู่สถานะรักษาการ เสี่ยงที่ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 จะล่าช้า ซึ่งกระทบต่อการเบิกจ่ายและเศรษฐกิจในช่วงที่โลกเผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้า

แนะหลีกเลี่ยงกลุ่ม Domestic กลุ่มที่อิงการใช้จ่ายภาครัฐ (เช่น รับเหมาก่อสร้าง, สื่อสารขนาดเล็ก) และกลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ (ค้าปลีก, ธนาคาร, การเงิน) มีแนวโน้มได้รับผลกระทบในทุกฉากทัศน์ที่ไม่เป็นบวก ขณะที่กลุ่มหุ้นที่อิงเศรษฐกิจต่างประเทศ (พลังงาน, บรรจุภัณฑ์, ปิโตรเคมี) และกลุ่มสาธารณูปโภค (เช่น ไฟฟ้า) ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำด้านกำไร มีแนวโน้ม Outperform ตลาดในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง

ผลกระทบต่อ GDP ความล่าช้าของพ.ร.บ.งบประมาณ หรือขาดมาตรการที่เหมาะสมที่จะบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีการค้า จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการปรับลด GDP ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญความท้าทายภายนอกต่างๆ เรามองหุ้นกลุ่มอิงปัจจัยนอกประเทศ อาทิ IVL, SCGP, RATCH, EGCO จะได้รับผลกระทบจำกัดมากที่สุด

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวในกรอบ 1,080-1,150 จุด เข้าสู่โหมดระมัดระวัง เราแนะนำหมุนเงินลงทุนถือเงินสด หรือหมุนเงินลงทุนมายังกลุ่ม External และ Defensive อาทิ IVL, SCGP, RATCH และ EGCO หากราคาปรับลดลงมาตามตลาด เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองในประเทศมากนัก แนวรับ 1,080 จุดและแนวต้าน 1,150 จุด สัดส่วนลงทุน:เงินสด 50% vs พอร์ตหุ้น 50%

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง