ส่องราคา Bitcoin - TOP 3 เหรียญที่นักลงทุนจับตาสัปดาห์นี้ มีอะไรบ้าง?

การลงทุนใน Cryptocurrency หรือสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับนักลงทุนอีกต่อไป เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมามีหลายคนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้น โดยเฉพาะเหรียญเปิดวงการอย่าง 'Bitcoin' ที่ราคาล่าสุดก็พุ่งทะลุไปกันจนเกินคาดเดาราคาได้แล้ว ทั้งรายย่อย รายใหญ่ก็ยิ่งให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีความผันผวนอยู่ไม่น้อย 

โดยผลสำรวจลูกค้าสํานักงานธุรกิจครอบครัว 150 แห่งทั่วโลก ของ Goldman Sachs  พบว่า 15% ได้เข้าร่วมการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ 45% กําลังมองหาหนทางในการเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ โดยมีเหตุผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นขณะที่การพัฒนาของเศรษฐกิจในระดับมหภาคอื่น ๆ มีอัตราที่ตํ่าลงเป็นเวลานาน หลังจากผ่านปีที่มีการกระตุ้นการเงินและการคลังทั่วโลกมากที่สุดอย่างไม่เคยมีมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

และช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในวงการคริปโทฯ ก็มีข่าวคราวที่ส่งผลต่อราคาของเหรียญในตลาด โดยเฉพาะการเปิดตัวบล็อกเชน Ethereum ที่ใช้ระบบ Proof-of-Stake ชื่อว่า “Beacon Chain” ที่ทางผู้พัฒนาก็พยายามเร่งผนวกมันเข้ากับเครือข่ายตัวเดิมที่ใช้ Proof-of-Work  โดยนาย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ออกมาเผยถึงแผนการรวบรวม chain แบบเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน โดยเรียกมันว่า “TheMerge” ผ่านงาน World Blockchain Conference เครือข่ายได้รับการอัปเดตหลายอย่างที่ดําเนินผ่านการ Hard Fork โดยมีจุดประสงค์เพื่อวางรากฐานสําหรับการเคลื่อนย้ายเครือข่ายของ Ethereum ให้กลายเป็น proofof stake หรือ Ethereum 2.0 โดยคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในช่วงครึ่งปีต่อจากนี้ 

รวมถึงในงาน “The B Word” ซึ่งเป็นงานประชุม Bitcoin เสมือนจริงที่จัดขึ้นในคืนที่ผ่านมา ที่ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ SpaceXไปปรากฏตัว พร้อมทั้งประกาศว่า  Tesla จะกลับมารับ Bitcoin อีกครั้ง   โดยMusk กล่าวว่า Tesla จะกลับมารับ Bitcoin อีกครั้งและยํ้าเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนของการขุด Bitcoin  จากที่ก่อนหน้านี้ Tesla เริ่มยอมรับ Bitcoin ในเดือนมีนาคมปีนี้ ก่อนที่จะระงับแผนการดังกล่าวในเดือนต่อมาเนื่องจากความกังวลด้านพลังงาน แต่ Musk ก็ไม่ได้ระบุวันที่ที่ Tesla จะกลับมารับชําระเงินด้วย Bitcoin ว่าจะเริ่มอีกเมื่อไหร่  แต่ก็ได้เปิดเผยการถือครอง cryptocurrency ส่วนตัวและการถือครองในองค์กรของเขาด้วย  ว่า " ในตอนนี้เขาเองมี Bitcoin, Tesla เป็นเจ้าของ Bitcoin, SpaceX เป็นเจ้าของ Bitcoin, ผมเองเป็นเจ้าของ Ethereum เล็กน้อย และผมถือ Dogecoin แน่นอน” 

ซึ่งในแต่ละประเด็นก็ยิ่งส่งผลต่อราคาเหรียญในตลาดคริปโทฯ ซึ่งข้อมูลจาก บิทคับ ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่า ในสัปดาห์นี้ มีเหรียญที่น่าจับตาอยู่ทั้งหมด  3 เหรียญด้วยกันได้แก่ 

1. Bitcoin  โดยราคาปรับขึ้นและปิดเหนือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ที่ $32,974 (~ 1,086,163 บาท) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม บ่งชี้ว่าแรงขายกําลังลดลง ขณะนี้ขาขึ้นกําลังพยายามผลักดันราคาให้สูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50)ที่ $34,301 (~ 1,129,874 บาท)  

หากผู้ซื้อประสบความสําเร็จ BTC อาจเจอกับแนวต้านระยะสั้นที่ราคา $36,670 (~ 1,207,909 บาท) ถ้าสามารถทะลุแนวต้านนี้ไปได้ อาจดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาฟื้นตัวไปยังแนวต้านที่ถัดไปที่ $41,330 (~ 1,361,410 บาท) และ $42,451.67 (~ 1,398,358 บาท) ตามลําดับ

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA20) เริ่มยกตัวสูงขึ้น และดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ได้ขึ้นเหนือ 54 บ่งชี้ถึงความได้เปรียบเล็กน้อยของฝั่ งขาขึ้น

หากราคาลดลงจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน(SMA 50) แต่ดีดตัวขึ้นจาก เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) แสดงว่าความเชื่อมั่นนั้นกลับกลายเป็นบวก ผู้ซื้อจะพยายามอีกครั้งเพื่อผลักดันราคา

ตรงกันข้ามกับสมมติฐานนี้ หากราคาพักตัวตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) จะบ่งชี้ว่า ยังมีแรงขายเมื่อราคาสูงขึ้น และราคาอาจลดลงทดสอบแนวรับที่ $31,000 (~1,021,140 บาท) อีกครั้ง 

2. Ethereum (ETH) ราคาอยู่ที่ระดับราคา $2,165(~ 71,315 บาท) ซึ่งเป็นแนวต้านเก่า ของวันที่ 7 กรกฎาคม 

 โดยจับตาว่าหากราคาลดลงจากระดับปัจจุบัน จะพบแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ณ$2,046 (~ 67,395 บาท) ถ้าราคาดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากเส้นค่าเฉลี่ยนี้ จะเป็นสัญญาณของขาขึ้นครั้งถัดไป

หากเป็นเช่นนั้น ฝั่งขาขึ้นจะพยายามผลักดันให้ราคาปิดเหนือแนวต้านนี้ ซึ่งจะเป็นสัญญาณในทางบวก อีกทั้ง RSI ที่อยู่เหนือจุดกึ่งกลาง บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่มากขึ้น

ตรงกันข้ามกับข้อสันนิษฐานนี้ หากขาลงดึงราคาตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20)จะบ่งชี้ว่าผู้ขายยังไม่ยอมแพ้ และราคาอาจดิ่งลงสู่แนวรับแข็งแกร่งที่ $1,728.74 (~ 56,944 บาท)

3. Aave ราคา ดีดตัวขึ้นจาก $212.54 (~ 7,000 บาท) ในวันที่ 20กรกฎาคม และพุ่งขึ้นเหนือแนวต้านที่ $280 (~ 9,223 บาท) ในวันที่23 กรกฎาคม บ่งชี้ว่ายังมีกําลังซื้อที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในขณะที่ราคาลดลง และตอนนี้ราคาได้แกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมสมมาตร

เส้นค่าเฉลี่ยที่ใกล้จะตัดกัน บ่งชี้ว่าฝั่ งขาขึ้นพยายามกลับมา หากราคาดีดขึ้นจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ อาจส่งผลให้แรงขายลดลงและมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น

หากราคาดันตัวขึ้น และปิดเหนือเส้นแนวโน้มขาลง จะทําให้รูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตรสมบูรณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ AAVEสามารถไต่ระดับไปที่ $347.53 (~ 11,447 บาท) และ ต่อมาที่ $400

(~ 13,176 บาท)

ตรงกันข้ามกับข้อสันนิษฐานนี้ หากขาลงสามารถดึงราคาให้ตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ทั้งคู่จะค่อย ๆ เคลื่อนไปที่เส้นแนวรับของสามเหลี่ยมอีกครั้ง หากลงตํ่ากว่าสามเหลี่ยมอาจทําให้โแนวโน้มกลายเป็นขาลง

ที่มา: Bitkub