ม็อบเมียนมาดับแล้ว 4 ศพ กองทัพขู่อีกจุดจบผู้ประท้วง “สูญเสียชีวิต”
ม็อบเมียนมาดับแล้ว 4 ศพ - วันที่ 22 ก.พ. เอเอฟพี รายงานสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศพม่าหรือเมียนมาที่ยืดเยื้อมากว่า 3 สัปดาห์ ตั้งแต่กองทัพเมียนมาภายใค้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของ นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ว่า สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี สื่อทางการเมียนมา เปิดเผยแถลงการณ์ของกองทัพเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. มีใจความสำคัญเป็นการส่งสารเตือนผู้ประท้วงว่าอาจลงเอยด้วยการเสียชีวิต
จุดชนวนให้ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลยิงเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย ได้แก่ น.ส.เมียะ ตะแวะ ตะแวะ ไขง์ พนักงานร้านของชำ วัย 20 ปี ถูกตำรวจยิงที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัสในกรุงเนปยีดอว์เมื่อวันที่ 9 ก.พ. และสิบวันหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหญิงสาวก็สิ้นใจเมื่อวันที่ 19 ก.พ.
อีกสองรายถูกยิงเสียชีวิตขณะร่วมการชุมนุมในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. หนึ่งในผู้เสียชีวิตทราบในเวลาต่อมาจากการยืนยันของญาติ เป็นชายวัย 36 ปี ทำอาชีพช่างไม้ โดนยิงเข้าที่หน้าอกและไม่นานก็เสียชีวิต ส่วนเหยื่อคนที่สองเป็นชายเช่นกันและถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ขณะที่เหยื่อรายที่สี่เป็นชายและถูกยิงในนครย่างกุ้ง
“ผู้ประท้วงกำลังปลุกระดมประชาชน โดยเฉพาะวัยรุ่นและเยาวชนที่มีอารมณ์ร่วมซึ่งนำไปสู่เส้นทางการเผชิญหน้าที่พวกเขาจะต้องสูญเสียชีวิต” ผู้สื่อข่าวเอ็มอาร์ทีวีอ่านตามแถลงการณ์ซึ่งปรากฏบนจอโทรทัศน์ทั้งภาษาเมียนมาและภาษาอังกฤษ พร้อมย้ำเตือนผู้ประท้วงไม่ให้ยุยงก่อการจลาจลและสร้างสถานการณ์สับสนวุ่นวาย
ถึงอย่างนั้นมวลชนจำนวนมากยังรวมตัวเนืองแน่นเพื่อแสดงพลังขับไล่กองทัพเมียนมา รวมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซู จี นักการเมือง และนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ที่นครย่างกุ้งมีกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนชู 3 นิ้ว และป้ายข้อความกดดันให้กองทัพยุติการก่อรัฐประหาร
น.ส.จอ จอ นักศึกษามหาวิทยาลัย วัย 23 ปี ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมชุมนุมในย่างกุ้งว่า “เราออกมาวันนี้เพื่อร่วมการประท้วง เพื่อต่อสู้จนกว่าจะได้ชัยชนะ เรากังวลการปราบปรามของทางการ แต่เราจะเดินไปข้างหน้า เราโกรธมากๆ ที่กองทัพทำอย่างนี้”
ในเขตปาฮันของย่างกุ้ง ผู้ชุมนุมนั่งเรียงรายปิดถนน ชูป้ายสนับสนุนนางซู จี จนทั่วทั้งบริเวณเหมือนเป็นทะเลสีแดง-เหลือง ในเมืองมิดจีนาและทวายก็แน่นขนัดไปด้วยผู้ประท้วงและเสียงตะโกนต่อต้านกองทัพเมียนมา ส่วนกรุงเนปยีดอว์มีกลุ่มผู้ประท้วงขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: