BECโค้งสามเด่น รับเงินโฆษณาพุ่ง ลิขสิทธิ์ละครดัน

นายพิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักการเงินและบัญชี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมองว่าการเติบโตจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,504.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 184.7 ล้านบาท

เนื่องจากมองว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มบางเบาลงมากขึ้น มาตรการคุมเข้มต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น การเปิดประเทศท่องเที่ยวจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2565 เป็นต้นไป ซึ่งเม็ดเงินจากต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวและลงทุมที่มากขึ้นจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อและการบริโภค หนุนให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าเม็ดเงินที่ลงทุนในสื่อโฆษณาจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ

*ขายลิขสิทธิ์ละคร

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าธุรกิจการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) จะสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายกับลูกค้าต่างชาติได้เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่การจำหน่ายลิขสิทธิ์ที่เป็นละครอยู่ในระหว่างการออกอากาศ 2 เรื่อง ได้แก่ คือเธอ (Bad Romeo) ที่จำหน่ายลิขสิทธิ์ให้กับทางประเทศจีน, Netflix (ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และ VIU (สิงคโปร์) เป็นต้น และพิศวาสฆาตเกมส์ ที่จำหน่ายลิขสิทธิ์ให้กับ Netflix (ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)

ในขณะที่ช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ บริษัทยังมีแผนการจำหน่ายสิขสิทธิ์ละครและซีรีส์ใหม่เพิ่มเติมปี 6 เรื่อง ได้แก่ ที่สุดของหัวใจ VIU (อินโดนีเซีย), รากแก้ว, สายลับลิปกลอส, ลายกินรี, มัดหัวใจยัยซุปตาร์ และซุปตาร์ 2550 ผ่านทาง Netflix (ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการออกอากาศในเวลาที่ใกล้เคียงกันกับการออกอากาศของไทย และการจำหน่ายลิขสิทธิ์ข้างต้นจะเป็นรายได้ที่มีผลต่อกำไร โดยมั่นใจว่ารายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครทั้งปี 2565 จะแตะที่ระดับ 900-1,000 ล้านบาทตามเป้า

*รายได้ขยายตัว

สำหรับการเติบโตของรายได้รวมในปี 2565 นั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องในแบบตัวเลขหลักเดียวระดับสูง (High Single Digit) จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,728.93 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้สามารถสร้างรายได้เติบโตได้แล้วที่ 2,614.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 7% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อย่างไรก็ดี ด้วยคอนเทนต์ละคร ซีรีส์ รายการวาไรตี้ และรายการข่าว มีการปรับให้เข้ากับพฤติกรรมคนดูทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น หนุนความสามารถรักษาระดับผู้นำตลาดสื่อโทรทัศน์ โดยเฉพาะตามหัวเมืองหลัก และกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างบริษัทกับผู้แทนของ 12 มหาวิทยาลัย ในการร่วมมือกันด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการละการส่งนักศึกษาเข้าร่วมฝึกงานในบริษัท ที่จะช่วยให้ทั้ง2 ฝ่ายสามารถพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงต่อไป นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอบอร์ดอนุมัติการสร้าง BEC สตูดิโอ รวมถึงอยู่ระหว่างการขยายทีม CG เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตคอนเทนต์ต่างๆ ให้กับบริษัทต่อไป ซึ่งมองว่าทั้งหมดที่กล่าวมายังช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทได้มากขึ้นอีกด้วย