ไทยหนีไม่พ้น จุดเปลี่ยน "การค้าโลก" ชะลอลงทุน - เลิกจ้าง l World Wide Wealth

เศรษฐกิจไทยปีนี้จะไม่เหมือนกับทุกปี จะเจอกับแรงกดดันอย่างหนักจากการค้าโลก มีผลตั้งแต่ตลาดเงิน ส่งออก การผลิต การลงทุน และอาจจะไปไกลถึงการเลิกจ้างงานครั้งใหญ่ได้
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) "วิเคราะห์ผลกระทบเบื้องต้นของนโยบายการค้าโลกต่อเศรษฐกิจไทย” โดย นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า การที่สหรัฐฯตั้งกำแพงภาษีในหลายประเทศ เป็นเรื่องช็อคครั้งใหญ่ของโลกที่จะมีผลต่อเนื่องไปในระยะยาว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการค้าโลกเปลี่ยนใหม่ และกว่าที่โลกสร้างสมดุลใหม่ได้นั้น จะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้ตลาดการเงินโลกผันผวน ส่วนไทยเราเอง เริ่มเห็นสัญญาณการผลิต การค้า และการลงทุนบางส่วนเริ่มชะลอลงแล้ว เพื่อรอดูความชัดเจนของการเจรจากับสหรัฐฯ ในช่วง 90 วัน
ทั้งนี้ภาพรวมผลกระทบเศรษฐกิจไทยเรามีความเสี่ยงสูงมากขึ้น ธปท.ประเมินว่าจะปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตลดลงต่ำกว่า 2.5% แน่นอน จากคาดการณ์เดิมที่อัตรา 2.8% รวมผลกระทบภาษีทรัมป์ 10% โดยความชัดเจนของตัวเลขจะออกมา หลังจากประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 30 เมษายน 2568 ซึ่งเศรษฐกิจที่ชะลอลงจะส่งผลให้การบริโภคในประเทศลดลงตามเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามนายสักกะภพยืนยันว่าตัวเลขที่แบงก์ชาติมองไว้ ผลกระทบจะไม่ได้น้อย แต่คงไม่ได้ลงไปแบบรุนแรงเหมือนช่วงโควิด 19
"ภาษีทรัมป์" กระทบทุกสิ่งใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เพราะเครื่องมือดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในทุกภาคส่วน เริ่มตั้งแต่ ตลาดการเงิน หรือค่าเงินบาท โดยหลังจากที่สหรัฐฯ เริ่มประกาศมาตรการภาษี สกุลเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วจากความกังวลต่อผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้สกุลเงินอื่น ๆ รวมถึงไทยพลิกแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้เงินบาทไทยที่แข็งค่าขึ้นยังคงสอดคล้องไปตามภูมิภาค
แต่สิ่งที่เริ่มเห็นผลกระทบแล้ว ณ วันนี้ ก็คือ ภาคการลงทุน กำลังเริ่มชะงักงัน เพราะทุกฝ่ายรอความชัดเจน และหากอนาคตมีแนวโน้มไม่สดใส อาจถึงขั้นย้ายฐานการผลิต ส่วนการส่งออกของไทย ครึ่งปีหลังหนีไม่พ้นเจ็บหนัก